Image
0

เด็กชายไทไปเที่ยวยุโรป Part 1

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brugge

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Antwerp Train Station

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brugge

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

On the train to Antwerp

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel City Centre

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel City Centre

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel, Motel One Hotel

หูยย เริ่มยากเลย จริงๆต้องเริ่มก่อนว่าทำไมถึงตัดสินใจไปเที่ยว และอิแม่นั่งเล่นเฟซบุคอย่างดั๊นก็มาเห็นดีลตั๋วเครื่องบินราคาดี๊ดี นั่นคือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจไปเที่ยว คือจริงๆอยากไปเบลเยี่ยมมานานมาก แต่รู้สึกว่าการไปยุโรปต้องใช้เวลา ใช้เงินเยอะเลยยังเก็บไว้ก่อน จนมาเจอดีลนี้แหละค่า KLM ไปกลับราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 19,000 บาท net นะคะ กิสมากๆๆๆๆ จริงๆแบบนี้ถือเป็น Impluse shopping ที่ค่อนข้างแย่มากหง่ะ T_T เราจองตั๋วไว้ตั้งแต่เดือนเมษายน และเลือกเดินทางช่วงตุลาเพราะดูเรื่องเวลางานของสามีและน่าจะเป็นช่วงที่ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป เดี๋ยวจะมาบอกข้อดีข้อเสียของการจองอะไรล่วงหน้ายาวเกินปายยยยย

ค่ะ พอได้ตั๋ว อ้อ ลืมบอกอีกหนึ่งประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปคือ Ireland เลยเลือกขาไป ไปลงที่เบลเยี่ยม และกลับจาก ดับลิน ไอร์แลนด์
Belgium: บินออกจากกทมประมาณเที่ยงถึงที่ Brussel เกือบห้าทุ่ม เลือกนั่งแท็กซี่ไปโรงแรมค่ะ เพราะเหนื่อยโฮก โรงแรมโอเคเลยด้วย location ชื่อ Motel One ห้องสะอาดแต่เล็กไปหน่อย ทำเลดีมาก เดินถึงตัวเมืองเลย โชคดีของเรื่องเวลา วันที่ถึงก็ดึกแล้ว เลยหลับยาวถึงเช้า เลยไม่มีปัญหาเรื่อง jeglag จนถึงวันกลับเลย แต่ก็จะกลายเป็นคนสุขภาพดีคือนอนเร็ว ตื่นเช้ากันค่ะ นอนที่ Brussel สามคืน ก็เดินทั่วเมืองเลยค่ะ คือจำได้ว่าเดินเยอะมากๆ เวลานอนของไทก็นอนแค่ครั้งเดียวแล้ว ก็จะหลับบนรถเข็นไปช่วงบ่ายทุกวันไปค่ะ พ่อแม่ก็หาร้านกาแฟนั่งไปค่ะ Brussel เป็นเมืองที่สวย ด้วยตัวตึก ถนน การเดินทางก็มันจะเดินทางด้วย tram ที่สะดวกและไปถึงได้ทุกที่ สถานที่สำคัญและท่องเที่ยวต่างๆก็จะอยู่ใกล้ๆกันหมด เดินถึงกันได้ค่ะ
วันที่สามของการอยู่ Brussel เริ่มรู้สึกว่าเดินครบหมดละ เลยเลือกนั่งรถไฟไปเที่ยว one day trip ที่เมือง Ghent ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอไปถึงแล้ว ตะลึงในความสวยของสถาปัตยกรรมของเมืองนี้มาก เหมืองเมืองในเทพนิยาย สวยมากๆ เดินไปตรงไหนก็สวยไปหมดค่ะ แนะนำมากๆ ว่าควรไปอย่างยิ่งค่ะ ไปเที่ยวแบบ one day trip ก็น่าจะพอค่ะ
เราเดินทางต่อจาก Brussel ด้วยรถไฟไปเมือง Brugge เป็นเมืองเล็กๆที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยว เราพักกัน 1 คืน ที่โรงแรม hotel boterhuis เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ทำเลดีมาก เดินนิดเดียวก็ถึงตัวเมือง เมือง Brugge จะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ตึกจะไม่สูงมาก เรียงๆกันน่ารัก อารมณ์ชนบทหน่อยๆ แต่เดินเล่นสนุกค่ะ ไม่เหนื่อยมาก เดินได้รอบเมืองเลย
ออกจาก Brugge เราก็นั่งรถไฟไป Antwerp ตอนถึงก็งงๆเหมือนกัน เพราะเมืองนี้ดูไม่ค่อยเหมือนเมืองอืนที่เราไปมา จะดูเป็นตึกใหม่ office shopping street มากมาย ซึ่งเค้านับว่าเป็นเมืองแห่ง fashion ของ Belgium โดยส่วนตัวไม่ได้ชอบเมืองนี้มากค่ะ เพราะไม่ค่อยได้เห็นสถาปัตยกรรมเก่าๆเท่าไหร่ หลักๆจะเป็นเมืองแห่งการชอปปิ้งมากกว่า เราเลยเดินเล่นเอื่อยๆ แล้วกลับโรงแรมเร็ว เพื่อที่จะนอนเร็วและรีบตื่นเช้าเพื่อไปเลือกนั่งรถไฟรอบเช้าไป Amsterdam
ออกจาก Antwerp แต่เช้าเลยค่ะ แต่คนเยอะมาก บนรถไฟไม่มีที่นั่งเลย ยืนกันตลอดตั้งแต่ Antwerp จนถึง Amsterdam ดีว่านั่งไม่ถึง 2 ชั่วโมง ไทก็นั่งบนกระเป๋าไปค่ะ อ้อ จิบอกว่า การเดินทางแบบหฤโหดแบบข้าพเจ้า ควร travel light ให้มากที่สุดค่ะ อิชั้นโดนสามีบ่นสุดๆเรื่องกระเป๋าหลายใบ เพราะไหนจะมีกระเป๋า ไหนจะต้องมีรถเข็นอีก เพราะฉนั้นควรมีกระเป๋าให้น้อยที่สุด ใหญ่ได้ไม่เป็นไร คุณสามีบอกมา T_T
ถึง Amsterdam เกือบเที่ยง พอถึงก็กรี๊ดกับความสวยงามของเมืองมากค่ะ ไทแฮปปี้มาก เพราะนางได้นั่งรถไฟเยอะสมใจนางเลยค่ะ ขอมาต่อเรื่อง Amsterdam วันหลังนะก๊ะ ก่อนไปนอน ขอแอบบอก tips การพาเด็กไปเที่ยวนิสนุง แต่จริงๆก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่แล้ว เพราะเด็กอายุ 2-3 ขวบ ทานข้าวได้ทุกอย่าง นอนก็อย่างมากวันละ 1-2 ครั้งค่ะ
  • ถ้าบินไฟล์ทยาวๆ แล้วลูกหลับไม่ได้ คุณหมอแนะนำให้ทานยาแก้แพ้ก่อนบินค่ะ กันเรื่องแพ้อากาศและทำให้ลูกนอนได้ระดับหนึ่งค่ะ
  • ของที่จะเอาไปใช้บนเครื่อง ของเล่นลูก หนังสือ ถ้าลูกพอดู cartoon ได้บ้าง ก็อนุโลมให้ดูทีวีบนเครื่องที่เป็น cartoon ได้ค่ะ แต่เราค่อนข้างจำกัดเรื่องการดู cartoon เลยให้ดูไม่นาน ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง
  • ถ้าไปกันสามคนพ่อแม่ลูก โดยมากสายการบินก็ต้องจัดให้นั่งติดกันอยู่แล้ว แอบขอหมอน ผ้าห่มมาเยอะหน่อย เอาไว้รองหัวกับห่มลูก แต่ความเหนื่อยคือ พอลูกหลับก็ต้องคอยกันไม่ให้ลูกดิ้นตกเก้าอี้ค่ะ ดังนั้นภาระก็จะอยู่ที่พ่อแม่กับการนอนไม่สนิทค่า
  • สายการบินกับเรื่องอาหารบนเครื่อง เป็นเรื่องที่ต้องทำใจค่ะ โดยเฉพาะสายการบินยุโรป อาหารแบบว่ารับทานบ่ได้ รอบนี้ก็มัวแต่รีบออกจากบ้าน ลืมตุนอาหารใส่กล่องไว้มื้อหนึ่งหรือสองมื้อให้ไท ไว้ทานบนเครื่อง เพราะบางไฟล์ทเค้าเสริฟอาหารแค่รอบเดียว แต่บนเครื่องเป็นเวลาอาหารเย็นของเมืองไทย แล้วเราจะให้ลูกหม่ำอะไรละค่ะ เพราะฉนั้นทำข้าวใส่กล่องเผื่อไปเลยค่ะ เราไม่ทานได้ แต่ลูกเราจิไม่ไหวเนาะ อ้อ แล้วก็เตรียมขนม ผลไม้ที่ลูกชอบเอาไว้ไปทานบนเครื่องด้วยค่ะ
  • น้องคนไหนที่ฉี่เองเป็นแล้ว แนะนำให้พกกระปุกฉี่ไปค่ะ จะได้ไม่ต้องคอยลุก ไปคิวเข้าห้องน้ำ
  • ผ้าเปียก กับเสื้อผ้าสำรอง ห้ามลืม สำคัญมากกกกกก
  • ยาต่างๆ แก้ไข้ ลดน้ำมูก แก้แพ้ แก้ท้องเสีย ปรอทวัดไข้ cool gel ยาแก้อักเสบ เอาไปเผื่อเลยค่ะ เมืองนอกไม่ขายยาให้ถ้าเราไม่ไปหาหมอค่ะ
  • อย่าลืม นม ลูกนะค่ะ เพราะทริปนี้ สิ่งที่พลาดที่สุดคือลืมนมผงลูกทั้งกระปุกเลย อย่างว่าให้ลูกกินนมแม่ถึง 2 ขวบ พอมากินนมผง แล้วต้องเดินทางไกลๆก็ดันลืมซะงั้น เราไปวิ่งซื้อนมผงวัว ไทไม่ยอมกินเลย เพราะปกติทานนมแพะ ทริปนี้ไทเลยแทบจะไม่ได้ทานนม เลยเอาชีสให้ทานแทน กลับมาอ้วนปั้กเลยคับ

ไว้จะมาต่อทริป Amsterdam, London, Scotland and Ireland นะก๊ะ

0

เด็กชายไท ชอบไปเที่ยวทะเล

หายไปนานมากๆๆๆๆหง่ะ ยุ่งวุ่นวายกับการเริ่มทำงานเล็กๆน้อยๆ เพราะรู้สึกว่า เป็นแม่เต็มตัวมานานละ อยากหาอะไรทำบ้าง และก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย แมักระทั่งงานที่เลือกทำ คือการทำงานที่บ้าน เพราะระหว่างทำงาน ก็จะมีลิงไทมาคอยกวน จุ๊กจิ๊กตลอดเวลา กว่าจะได้ทำงานจริงๆคือตอนคุณชายหลับ ส่วนกลางวัน นอนครั้งละหนึ่งชั่วโมง แค่กินน้ำ กินหนม เล่นเฟซบุค กำลังจะนั่งทำงาน ไทก็ตื่นอีก บ่นเยอะมาก แหะๆ

จริงๆเคยเขียนเรื่องพาลูกไปเที่ยวทะแลแล้ว ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนการไปเที่ยวทะเลในประเทศไทยยัง เพราะเราเชื่อว่า การไปเที่ยวในประเทศน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆในการตัดสินใจของการพาลูกไปเที่ยว ตั้งแต่เด็กๆ ส่วนมากจะเห็นหลายๆครอบครัว เริ่มพาไปเที่ยวที่หัวหินก่อน เพราะขับนถสะดวก ถนนดี ตัวเลือกโรงแรมเยอะ ถึงแม้โรงแรมมันจะแพงๆๆๆๆๆมาก ราคาโรงแรมนี้ไปนอนฮ่องกงได้ละ แต่ก็เพราะหัวหินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลอันดับต้นๆที่คนไทยนิยมไป พี่แกเลยขายแพงได้ไง วันนี้เราจะมาเรื่องการเตรียมตัว และโรงแรมที่เราเคยไปพักและพอจะแนะนำได้นะคะ

การเตรียมตัว จริงๆไม่ต่างอะไรกับการไปต่างประเทศ ที่ต้องเตรียมเพิ่มก็พวกอุปกรณ์กันแดด ของเล่นทราย ถ้าลูกโตพอจะเล่นทรายได้นะ เพราะการเล่นทรายเนี่ย ไทเพลินมาก เป็นการเล่นที่สามารถเล่นคนเดียวได้เกินครึ่งขั่วโมง แม่ปลื้มค่ะ ยาทากันยุง เพราะชายหาดจะชอบมีแมลงหวี่ที่กัดได้นะ

– ชุดว่ายน้ำ เสื้อพยายามให้ใส่แขนยาว แดดสมัยนี้มันร้ายกาจ เราควรป้องกันให้ลูกตั้งแต่เด็กๆค่ะ กางเกงด้วย สำหรับเสื้อ เราชอบซื้อของ quicksilver ราคาไม่แพงมาก กางเกงก็ h&m ก็มีนะ ถูกมาก คุ้มด้วย ไทใส่มาสองปีละ หมวกแบบที่มีหางปิดตรงคอ เนื้อผ้าจะเหมือนชุดว่ายน้ำของ mothercare

– ครีมกันแดด อันนี้แล้วแต่ชอบเลย เราชอบของ eucerin kids มันดูปกป้องแดดดี พยายามซื้อที่มี ++++ มีบวก 4 อันยิ่งดี เพราะจะป้องกันรังสีได้เยอะอย่างกว่า

โรงแรมที่แนะนำในหัวหิน และเหมาะกับครอบครัวนะคะ

– ชอบมากที่สุด Intercontinental บริการดี ห้องดี อาหารเช้าเริด kids friendly สระว่ายน้ำไม่แซบมาก แต่หาดโอเค

– Hyatt อันนี้ก็โอเค สระว่ายน้ำมีสไลเดอร์ให้เด็กเล่น มีพวก kids room เราว่าเหมาะกับครอบครัวเด็กโตหน่อยมาก เอาลูกไปฝากได้ หิหิ

– v villas เอาจริงๆ ไม่ชอบเท่าไหร่ แพง ดูไฮโซจริง เน้นขายความเป็น butler ส่วนตัว แต่ butler ที่เราเจอไม่โอเคเลย ไม่ค่อย service mind และไม่ได้มี facilities อะไรที่เหมาะกับเด็ก อาจจะไม่เหมาะกับเด็ก อาหารเช้าก็เฉยๆ

– cape nidhra ห้องดี ราคาสูง ส่วนมากมีสระในห้อง ไม่ใหญ่มาก วิวห้องไม่ดี จะไม่เห็นทะเลเลย เห็นแต่ตึกข้างๆ ซึ่งเป็นไซต์ก่อสร้าง บริการพอประมาณ ไม่ว้าวมาก อาหารเช้าโอเค ไม่เหมาะกับครอบครัวและเด็กเล็ก เพราะเหมือน v villas ไม่ได้มี facilities สำหรับเด็กเท่าไหร่ แต่ชายหาดอยู่ทนทำเลที่ดี สะอาด ทรายขาว เพราะชายหาดหัวหิน บางที่จะดูไม่สวย หินเยอะ หาดสกปรก โดยเฉพาะถ้าเลยไปทางเขาตะเกียบ

– Evason อย่าไปเด็ดขาด แย่มาก เคยไปเกือบสิบปีที่แล้ว ก็พอดูได้ พึ่งไปมา มันแย่มาก หาดไม่มีค่ะ ทุกอย่างดูเก่า แต่ดีอย่างเดียวคือมี kids area สระสำหรับเด็ก มีบ่อทรายเล็กๆ นอกนั้นบายค่ะ ไม่ไปอีก ถึงว่าทำไมราคาห้องมันถูก อาหารเช้าก็แย่ค่ะ

ค่ะ เรื่องโรงแรมก็ประมาณนี้ คุณแม่ท่านอื่นๆ ถ้ามีประสบการณ์เจอโรงแรมดีๆก็มาแชร์กันนะ

มาต่อที่ภูเก็ต เราพาไทไปมาสามรอบละ ก่อนมีไท ไม่ค่อยได้ไป เพราะส่วนตัวไม่ชอบเมืองทะเลที่เป็นเมืองนักท่องเที่ยวมาก ชอบแบบเกาะๆไกลๆ อย่างหลีเป๊ะนี่เลิฟมาก

ครั้งแรกที่ไปภูเก็ต ไปกับพ่อแม่เรา เราเป็นคนเลือก เลยลองหาข้อมูล แล้วลองพักที่ jw marriot resort and spa เพราะต้องอยู่ค่อนข้างใกล้สนามบิน ไปทำงานค่ะ ห้องโอเค บริการโอเค อาหารเช้าโอเค แต่ด้วยความที่เป็น chain hotels ทุกอย่างจึงค่อนข้างเป็น standard ไม่ได้มีอะไรแย่หรือดีเกินไป ค่อนข้างชอบ สระว่ายน้ำเด็กดี มีสไลเดอร์เหมือนกัน ถือว่าโอเคเลย แต่หาดไม่ค่อยดีนะ คลื่นสูงด้วยช่วงที่เราไป

ครั้งที่สอง ไปทำงานกับพ่อแม่อีกแล้ว พ่อเราจอง pullman arcadia ชอบมากนะ ห้องดี โรงแรมอยู่บนเนินเขา เลยต้องเดินลงมาเล่นทะเลตรงหาดในทอน ซึ่งมีนดีมาก หาดสวยมากๆๆๆๆๆ น้ำใสกิ๊ก เห็นปลาด้วย ตอนที่ไปรัฐบาลพึ่งสั่งให้เก็บพวกเก้าอี้กับร่ม ชายหาดเลยดูสวย สะอาดตามาก เลิฟนายกตู่ค่ะ เราชอบที่สุด ตั้งแต่แคยไปภูเก็ต เพราะชายหาดสวยมาก ข้อเสียอย่างเดียว คืออาหารเช้าไม่ดีมากเท่าไหร่ และนักท่องเที่ยวจีนเยอะมากค่ะ แบบเสียงดังหง่ะ ฝรั่งงงทุกคน โดยสรุป แนะนำโรงแรมนี้มากๆ มีโซนเด็กด้วย

ครั้งล่าสุด พอดีได้ดีลราคาดีจากบัตรเครดิต และเคยเห็นรูปว่าสวย เลยอยากลองไปดู point yamu by como พูดเลยว่า ปกติเป็นคนไม่บ้าถ่ายรูปโรงแรม ห้อง เหิ้งอะไร แต่ที่นี่คือชอบมาก ตั้งแต่ reception พนักงานบริการดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกคนน่ารัก professional มาก พึ่งรู้ว่าเป็นเจ้าของเดียวกับ club21 ห้องงามมาก ที่โรงแรม upgrade ให้แบบมีสระในห้อง ปลื้มค่ะ ห้องใหญ่ ห้องน้ำเริด แต่มีข้อเสียคือไม่มีชายหาดเลย แต่ก็ดีค่ะ ตรงที่โรงแรมมี shuttle เรือหางยาวไปเกาะรังใหญ่ ซึ่งดูจากรูปมันสวยนะ นั่งไปแค่ 15 นาที แต่ๆๆๆๆๆๆ เราเศร้าเพราะไปช่วงฝนตก และดันตกทุกวัน เลยไม่ได้ไปเกาะ ร้องไห้หนักมาก จริงๆ วิวสวยมาก เพราะโรงแรมอยู่บนเขา มองเห็นทะเล ภูเขาครบ ชอบตรงที่ไม่ไกลจากสนามบิน และตัวเมือง อาหารเช้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หง่ะ สรุปว่ายน้ำอยู่แต่ในห้อง แต่ก็ดีเพราะสระในห้องค่อนข้างใหญ่ ไทชอบมาก กลับมาเป็นหวัดเลย เพราะโดดน้ำไม่หยุด อ้อ ชอบที่สุดคือ kids room ดีมากๆ มีของเล่นเยอะมากๆ ห้องใหญ่มากๆ

การเดินทางไปภูเก็ต อย่างเดียว คือเครื่องบินค่ะ แนะนำว่าถ้าเป็นคนชอบกิน ควรเช่ารถ และไปทานในเมือง มีร้านอร่อยเยอะมาก ที่ไปทานมา มี ร้านวันจันทร์ อาหารใต้ ร้านข้าวต้มโกเบนซ์ อาหารซีฟู้ดร้านฮ่องกง ซีฟู้ด ร้านที่มีเพื่อนแนะนำแต่ไปไม่ทัน เพราะไปแค่สามวันสองคืน ร้านน้ำเต้าหู้สามกอง อีกร้านจำไม่ได้และ

เดือนเมษามีไปดูงานแฟร์ที่กวางเจากับไปเที่ยวไต้หวัน ไว้จะมาเขียนต่อนะก๊ะ

1

หม่ามี้โชว์เดี่ยวญี่ปุ่น


ทริปญี่ปุ่นครั้งนี่เป็นอะไรที่ตัดสินใจ last minute มาก เพราะจริงๆแพลนว่าจะไปปลายเดือนอยู่แล้ว แต่พอดีทราบมาว่ามีงาน baby and kids fair ที่โตเกียวต้นเดือน เลยตัดสินใจไปเลย เพราะอยากไปดูไอเดียมาทำแบรนด์เสื้อของเราเอง เลยขอฝากไทไว้กับคุณสามีครั้งที่สองในชีวิต ตั้งแต่มีไท ที่ห่างไทมากกว่าสามวัน ครั้งแรกคือไปงานสัมนาที่ไต้หวันปีที่แล้ว คราวนี้ไปแค่สองคืนสามวัน รวมบินก็สี่คืน เหนื่อยมาก เพราะเลือกไปไฟลท์กลางคืนถึงเช้า จะได้ถึงแล้วไปงานแฟร์เลย ส่วนขากลับก็กลับไฟลท์เที่ยงคืน

งานแฟร์จัดที่ Tokyo Big sight อยู่แถวย่าน Odaiba นั่งรถไฟจาก shibuya ไปเกือบชั่วโมง ต้องไปเปลี่ยนสายรถไฟฉิ่งฉับ แต่เป็นรถไฟฟ้านะ แต่วิ่งช้ามากๆๆๆ ในงานนี้จะมีงานอื่นด้วย งานคราวนี้เลยไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ร้านมาออกน้อย เลยไม่ได้ใช้เวลาเยอะ จากที่ตั้งใจว่าจะเดินแฟร์สักสองวัน เลยเหลือสามชั่วโมง เลยมานั่งหาที่ไปเดินหา reference ทำร้าน ทำเสื้อ ร้านขายของเด็ก ตามรอยหนังสือ Tokyo ทำมือ เลยไปย่าน Kochijoji ก่อนเลย ดูจากหนังสือ ก็ไม่ได้คิดว่าจะเห็นอะไรเยอะ แต่พอถึง แล้วเดินออกจากสถานีรถไฟไป จะเจอตามนี้เลยค่า

Kochijoji นั่งจาก shibuya มาไม่กีสถานี ต้องเปลี่ยนเป็นสาย Keio line เลือกนั้งขบวน express นะจะถึงเร็วมาก

พอถึง เดินออกจากสถานี ข้ามถนนเล็กๆมา จะเจอห้าง Tokyo ให้เดินไปเดินหลังห้าง จะเจอถนนเล็กๆ ตามซอกซอย ค่อยๆเดินเลย มีร้านน่ารักๆเยอะมาก ร้านแรกที่เลิฟมาก เห็นแล้วแทบจะกรี๊ดอยู่ในร้าน คือร้าน Cotton field เป็นร้านที่ขายพวกกระดุม งานปัก งานร้อย งานถัก คืออยากจะทำอะไรเกี่ยวกับงานเย็บปักถักร้อย มีหมด และอุปกรณ์ ลาย ทุกอย่างน่ารักและสวยมาก อยากทำกำไลข้อมือก็ได้ กำไลเด็กก็มี คือมันน่ารักมาก ตอนแรกคิดว่าจะไป tokyu hands แล้วน่าจะมีเยอะ แต่เทียบกับที่นี้แล้ว คนละโลกเลย เดี๋ยวจะแปะรูปให้ดูนะคะ ร้านข้างๆก็จะมีพวกร้าน vintage furniture อยากได้ แต่ขนกลับบ่ไหว เลยได้แต่ชื่นชม เดินออกจากร้าน cotton field ไปทางขวา ผ่านร้าน zara แล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปสัก 50 เมตร จะเจอร้าน check and stripe คือร้านในหนังสือ ร้านน่ารัก เป็นร้านที่เปิดเป็น workshop สำหรับเรียนเย็บผ้า pattern ร้านนี้เน้นขาย pattern เสื้อผ้าผู้เหญิง เสื้อเด็ก กระเป๋า มีลายปักเด็กๆน่ารักเยอะ ราคาไม่แพง ตัวปักตัวละร้อยกว่าเยน น่ารักมากๆๆๆๆ ร้านจะเล็กๆนะ ขายผ้าเป็นม้วน ให้ตัดซื้อได้ ลายผ้าก็สวยมาก ส่วนมาก made in japan อย่างเราก็มักจะเลือกซื้อของที่ made in japan ก่อน เพราะคุณภาพจะดีกว่า ออกจากพวกโซนร้าน hand craft, hand made แถวนี้จะมีห้างเยอะมาก อยู่ติดๆกัน ไม่ต้องเดินเยอะ แต่ย่านนี้จะไม่มีพวก hi brand นะคะ เป็นพวกแบรนด์ปกติ


  
  
  
  
 ห้าง Tokyu มี muji ใหญ่มาก สองชั้น ชั้นขายของเด็ก เสื้อผ้าเยอะมาก ของเล่นก็เยอะ แนะนำ ถ้าลูกชอบเล่นรถไฟ อยากให้ลองซื้อของ brio มาเล่น เป็นรถไฟไม้ ต่อๆกันโดยแม่เหล็ก ไทชอบมาก เล่นมาตั้งแต่ขวบนึง ยังไม่เบื่อเลย เล่นได้ทุกวัน ที่ญี่ปุ่น จะขายเฉพราะที่ห้าง Tokyu ชั้นของเล่น เดินถัดไป มีห้าง parco มีชั้นขายเสื้อผ้าเด็กทั้งชั้น มีชั้น kiddyland ที่ขายพวก sanrio, disney etc. ทั้งชั้น แถวนั้นมี loft ถ้าอยากเดินหาพวก stationaries

แถวๆสถานีรถไฟ จะมี shopping street ที่มีหลังคา เหมือนที่ Osaka จะมีพวกร้านเล็กๆ ร้านอาหาร ร้านขายยาเยอะมาก ราคาก็จะถูกกว่าในร้านพวก shinjuku/shibuya หน่อย เรามองว่าแถวนี้จะเป็นแหล่งช็อปปิ้งของคนท้องถิ่น เดินง่าย ห้างเยอะ มีทุกอย่าง

Nakameguro

วันที่สอง คิดอยู่ว่าไปไหนดี เพราะกลัวเวลาไม่พอ จากที่ดูในหนังสือว่า น่าไป Nakameguro แต่กลัวไม่ทัน เลยไปเดินเล่นแถว omotesando คือร้านสวยเยอะ แต่ส่วนมากเป็นร้าน hi brand คราวนี้ไม่ได้อยากไปดูพวกนี้ เลยเฉี่ยวๆแล้วนั่งรถไฟไป nakameguro เลย นั่งไปไม่กี่สถานีก็ถึง เดินออกจากสถานี เดินข้ามมาทางคลองเล็กๆ พวกร้านน่ารักๆจะอยู่ขนาบคลองนี้ ถ้าตามไกด์บุ๊ค จะบอกว่าเป็นแหล่งร้านอาหารเก๋ๆ แต่เรามากลางวัน เลยไม่ได้รู้สึกว่าหรูอะไรมาก แต่ร่มรื่น ร้านน่ารักๆเยอะ พวกเสื้อผ้า local brands ร้านอาหารเล็กๆ ร้านกาแฟเก๋ๆ ตั้งใจจะมาหาร้านพวก hand craft แต่เจอร้าน furniture accessories ชื่อ brick and mortar ชอบมาก อยากจิขนกลับทั้งร้าน ราคาไม่แพงเลย พวกของแต่งบ้าน กระจก ตะขอ vintage ถ้าชอบพวกสไตล์ vintage แนะนำให้ลองมาเชยชมค่ะ จริงๆตั้งใจจะมาหาร้าน & stripe แต่เค้าพึ่งย้ายจาก nakameguro ไปอีกสองสถานี เลยไม่ไป เพราะเดินหาจนเหนื่อย ถึงรู้ว่าย้ายไปแล้ว แต่ถ้ามีเวล และสนใจพวกงานมือ แนะนำให้ไปค่ะ เพราะเป็นร้านขายกระดุมเก่าแก่ เปิดมาเกือบ 50 ปีละ จะมีพวกงานมือให้เลือกเยอะมาก ลองดู website เค้าก็ได้ค่ะ http://www.and-stripe-easton.co.jp/


  
 เราชอบแถวนี้นะ ยังคิดเลยว่า ไทต้องชอบมากแน่ๆ ถ้าพาเดินเล่นแถวนี้ ต้นไม้เยอะ มีลำคลองเล็กๆ น้ำสะอาดมาก ฝรั่งเยอะ จะมีพวกแม่ๆลูกอ่อน พาลูกออกมาเดินเล่นเยอะ มีร้านนึง ที่แวะเข้าไปนั่งพักทานข้าว เป็นร้านขายเสื้อผ้าเด็ก และเป็นร้านอาหารสำหรับแม่และเด็กโดยเฉพาะเลย มีโซนให้เด็กเล่น น่ารักดี เดี๋ยวแปะรูปให้นะ


 พอออกจาก nakameguro เราก็เลยไป shinjuku ไปเก็บ list ที่หม่อมแม่ฝากซื้อของ และกลับไป shibuya เพราะที่พักอยู่แถวนั้น ถ้าอยากดูของเด็กเยอะหน่อย ใน shibuya ควรไปห้าง Tokyu Han ของเด็กจะเยอะกว่าห้างอื่นแถวนั้น และก็มี tokyu hands ที่ใหญ่มากๆ และ muji ที่ใหญ่มากๆ มีตั้ง 7 ชั้นแหนะ อยู่แถวๆห้าง seibu นะคะ ลองหาพิกัดดู

ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สิ้นเดือนที่แพลนไว้ว่าจะไป ก็จะไปเก็บร้าน hand craft hand made เพิ่มย่านอื่นนะคะ คราวนี้ไปกันสองแม่ลูก แอบเครียดอยู่ว่าจะไหวไม๊ 😉

อยากรู้อะไรเพิ่มเติม ลองถามมาได้นะคะ

0

เด็กชายไทตะลุยแดนมังกร และเยือนแผ่นดินแม่ — ไต้หวัน จีน ฮ่องกง PART II

นั่งรถไฟไปกวางเจา

 
มาต่อกันด้วยเรื่องจีนๆนะคะ บอกก่อนเลย ว่าไม่ใช่คนโลกสวย เพราะฉนั้นจะพูดตามจริง ตามที่เจอจากประสบการณ์จริงกับการที่คลุกคลีกับคนจีนและประเทศจีน ก่อนเริ่มเรื่องจีน ขอแชร์ความคิดส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของคนจีนและประเทศจีน เพราะเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูเด็ก ลูกหลานคนจีน ซึ่งขยายประชากรไปทั่วโลกในตอนนี้ blog นี้อาจจะดูซีเรียสนิดนึง ก่อนการเล่าถึงเอาเด็กชายไทไปประเทศจีนนะคะ

ทุกคนน่าจะทราบว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่ปิดประเทศมานานมาก และเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน และการที่ปิดประเทศและเปิดในยุคที่ความเจริญมันพรั่งพรูอย่างรวดเร็ว ทั้งค่านิยมของนโยบายการมีลูกคนเดียว ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่ามีการยกเว้นบ้างแล้ว และการที่มีนโยบายมีลูกคนเดียว ถ้ามีใครเคยอ่าน จะรู้ว่าเป็นผลเสียอย่างมากมาย เด็กที่เกิดมาหนึ่งคน จะเท่ากับมีพ่อแม่ถึง 6 คน คือใครบ้าง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่คอยประคบประหงม ตามใจ เด็กในบ้านคนเดียว เด็กโตมาแบบถูกตามใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งถ้าเป็นเด็กผู้ชายไม่ต้องพูดถึง ทุกคนเป็นลูกเทวดา ถ้าไปเจอตามท้องถนน เราเคยเจอเลยว่า ไทเล่นของเล่นอยู่ เด็กจีนวิ่งมาแย่ง แม่ก็ดีอยู่นะ มาบอกว่าอย่าแย่งน้อง แต่ทำไรไม่ได้ เด็กโตแล้วด้วยนะ ประมาณ 4-5 ขวบ เด็กผู้ชายร้อง กรี๊้ดๆๆๆๆๆๆ ดิ้นๆๆๆๆ อิแม่ก็ทำไรไม่ได้ กอดๆโอ๋ๆ แต่ไม่สอน ไม่ดุ สุดท้าย เราต่างหาก ต้องเป็นคนอุ้มลูกออกจากสถานเกิดเหตุ เพราะไทยืนงง ไม่อยากให้ลูกเห็น เพราะเราพยายามใช้เหตุผลกับลูกตลอด อะ นี่คือหนึ่งตัวอย่างที่เจอ และก็จะเจอได้บ่อยๆตามห้าง ที่พ่อแม่ตามใจลูก จนเดือดร้อนคนอื่น แต่พ่อแม่กลับไม่ทำอะไร เราเคยมานั่งคิดว่า แล้วเด็กพวกนี้ที่โตมาเป็นล้านๆๆๆๆคน สังคมจีนในอนาคตจะเป็นอย่างไร เข้าใจอยู่ว่า ด้วยการศึกษาหรือการปิดประเทศทำให้คนจีนไม่ได้รับการสั่งสอนที่เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมารยาททางสังคมซึ่งเป็นศูนย์ และอนาคตหล่ะ หลายๆคนออกมาพูดว่า ประเทศจีนคืออนาคตของโลก แต่ด้วยเด็กที่จะโตมาเป็นอนาคตของชาติถูกหล่อหลอมมาแบบนี้ มันน่ากลัวนะ ก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ นี่พยายามคิดถึงด้านบวกนะ ยังคิดไม่ออก ครอบครัวเราก็เจอปัญหาที่มีตัวการเป็นคนจีนมาบ่อนทำลายครอบครัว ฟิ้วววววว ซีเรียสซะยาว พอแล้วดีกว่า มาเริ่มทริปโหดกันดีกว่า

หลังจากกลับจากไต้หวัน แพลนที่วางไว้ก็คือกลับมาถึงฮ่องกง แล้วอีกวันนั่งรถไฟไปกวางเจา และการซื้อตั๋วรถไฟ ซื้อล่วงหน้าไม่ได้น้า ต้องไปลุ้นเอา แต่ถ้ามีวันในใจ และจะไปจากฮ่องกง ซื้อได้ที่สนามบินฮ่องกง จะมีบูธของ china อะไรสักอย่าง ลองถาม information center นะคะ แต่เรามารู้ทีหลัง วันที่ไป ไปถึง hung hom station เที่ยวที่จะเอาเต็ม เลยต้องรออีกชั่วโมงกว่า นั่ง 2 ชั่วโมง อ้อ เรื่องเครือข่ายโทรศัพท์ เราไม่แน่ใจว่ามีพวก pocket wifi สำหรับเมืองจีนยัง เพราะถ้าไม่มีก็ต้องซื้อแพคของแต่ละเครือข่ายที่ใช้อยู่ เพราะพวก wifi ตามที่ต่างๆห่วยใช้ได้เลยค่า

พอถึง จะถึงที่ guangzhou east railway station จำให้ขึ้นใจเลยนะ เดี๋ยวจะมาเล่าทีหลังว่าเกิดไรขึ้น แปะรอบรถให้ค่ะ http://www.it3.mtr.com.hk/B2C/frmScheduleGuangdong.asp?strLang=Eng

เราไปเช้าเย็นกลับ เพราะเข้าใจผิด หาข้อมูลไม่ดีพอว่า นั่งสองชั่วโมง นึกว่าชั่วโมงเดียว และประหยัดค่าโรงแรม ก็คิดว่ากลับไปนอนบ้านดีกว่า ซึ่งแฮกมากกกกกกกกก พอถึง มีเพื่อนที่ฮ่องกงที่ทำธุรกิจที่นี่บอกให้ใช้  uber ก็ใช้ค่ะ แต่งงมาก เราว่าระบบมันยังไม่รองรับกับระบบถนนเส้นทาง ไม่เหมือนญี่ปุ่น ที่ถนนหนทางที่อยู่มันเป๊ะหมด หรือเมืองไทยก็ยังพอได้นะ แต่ที่กวางเจา คือกดเรียกรถไป หากันไม่เจอสักที คือตาม map อยู่จุดเดียวกัน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามไรงี้ เป็นแบบนี้ตลอด เหนื่อยมาก กว่าจะเจอรถ คือแท็กซี่ท้องถิ่นก็ไม่ได้แย่ แค่ต้องรอคิวนาน และช่วงเวลาทอง ที่นี่เค้าไม่อ้างส่งรถ หรือ แก๊ซไม่พอนะ เค้าบอกเลยว่า คิดเพิ่มกี่เท่าก็ว่าไป ก็ต้องยอมค่ะ ขาไปที่ expo ระยะทางไม่ไกลมาก โอเคอยู๋ ค่ารถก็ไม่แพงเท่าไหร่ เป็น uber ด้วย แต่………….ผิดอีกช็อต มาผิด week คือ canton fair จะแบ่งเป็น period ว่า  period แรกเป็นสินค้าประเภทอะไร ซึ่งที่เราอยากมาดู มันม่ายช่าย มันคืออาทิตย์ถัดไป ก็ต้องมาอีก แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็เดินเล่นดู งานมันใหญ่มากกกกกกกกก แบบคนจีน ประเทศจีนนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ก็เดินชิวไป และตอนขามาก็ซื้อตั๋วขากลับไว้สองทุ่ม เราก็คิดว่าออกจากงานประมาณหกโมงเหลือๆ แต่ผิดอีกรอบ เรียก uber ไม่ได้ ระบบเน็ตล่ม แท็กซี่ไม่มีเลย สุดท้ายต้องนั่งใต้ดิน ซึ่งเป็นช่วงงานแฟร์เลิก คนนี่ทะลักออกมากต่อคิวยาวออกนอกสถานี ก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นตกรถไฟ ไม่มีที่นอน

ค่ะ เรื่องที่แย่ที่สุด คือ พอลงไปสถานี เราถามพนักงานว่า เราจะกลับฮ่องกง ต้องนั่งไปสถานีไหน ด้วยความที่ไม่ได้พูดชื่อสถานีไป พนักงานสองคนพูดเหมือนกันว่าไปนี่ๆนะ เราก็นั่งไปสิ นั่งนานมาก จนแบบเฮ้ย ไม่ทันแน่ๆ พอถึงก็รีบวิ่ง แต่พอขึ้นมา มันแปลกๆ ไม่คุ้น มันไม่ใช่ มันเหมือนสนามหลวงที่มีคนเยอะมาก นั่งอยู่กับพื้น ข้างๆเป็นกระเป๋า เสื่อ ข้าวกล่อง คือแบบ ตกใจมากว่า ทำไมไม่เหมือนตอนเรามาหว่า เลยวิ่งไปถามตำรวจ ถึงรู้ว่า มันคนละสถานีรถไฟ คุณตำรวจบอกมีเวลา ไม่ต้องรีบ ในใจคิด เออ ให้มันแน่นะ ต้องวิ่งไปต่อคิวแท็กซี่ ยาวมาก ณ ตอนนั้นเวลาทุ่ม 15 ไม่มีใครได้กินข้าว สงสารไทมาก ดูเหนื่อย ดูโทรมมาก สามีก็แฮกเพราะอุ้มไทตลอด สุดท้ายทันรถไฟ แทบจะกราบแท็กซี่ที่ซิ่งม้าเหาะมาก ซึ่งในหนึ่งวัน ที่กวางเจา ขอบอกว่า เจอคนที่แปลกๆเยอะมาก เดินชน แซงคิวนี่เป็นเรื่องปกตินะ ต้องทำตัวให้ชินค่ะ ใครแซง อิแม่ด่าเลย ใครผลัก อิแม่ก็หันไปด่าค่ะ แต่เอาจริงๆ เหมือนเค้าทำกันจนชินอ่ะ ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีอะไร อย่างเข้าห้องน้ำ ไอ้เราก็ยืนคิวไปสิ คนใหม่เข้ามา ก็พรวดๆเดินเข้าไปเลย ด่าไม่ทัน!!!!!! อ่ะ ไม่เอาๆ พอๆ ทุกอย่างมีด้านดีและไม่ดีค่ะ

อาหารการกิน การเดินทาง ความสะอาด อากาศ สรุป ทุกอย่างอ่ะนะ เมืองจีน ไม่เหมาะกับการพาเด็กเล็กไปเลยค่ะ ด้วยเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องหลัก อาหารการกิน ขนาดว่าไทโตพอกินได้ทุกอย่าง เรายังเครียดเลย เพราะทุกอย่างดูแบบว่า ส่วนประกอบหลักในจานคือผงชูรสค่ะ เครียดจีจี แต่ก็ต้องพยายามหาอะไรที่ดีที่สุด อย่างบะหมี่น้ำ เคยมีคนเล่าเรื่องขำให้ฟังว่า ถ้าไปทานอาหารจีนแล้วบอกไม่ใส่ผงชูรส เชฟไปต่อไม่ถูกเลยนะคะ

ยิ่งเด็กเล็ก ห้องน้ำ ร้องไห้หนักมาก เพราะฉนั้นโดยสรุปนะคะ รอลูกโตมากๆ แล้วค่อยพาไปค่ะ อย่างเรากับกอฟ ก็คุยกันแล้วว่าถ้าไม่ได้ต้องมางานแฟร์ ก็คงไม่มาอีก หรือถ้ามาคราวหน้า คงไม่ได้เอาไทมาด้วยละค่ะ

กราบขออภัย หากข้อมูลบางอย่างจะทำให้รู้สึกไม่ดีกับเมืองจีนนะค่า แต่เล่าจากประสบการณ์จริง จริงๆ

0

เด็กชายไทตะลุยแดนมังกร และเยือนแผ่นดินแม่ — ไต้หวัน จีน ฮ่องกง PART I

ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มานั่งหาเรื่องไปเที่ยว แหะๆ แต่ก็ไม่อยากไปเที่ยวอย่างเดียว เลยนึกขึ้นได้ว่ามีงานแฟร์ที่กวางเจาช่วงเมษา เลยคุยกับกอฟว่า ที่เราอยากไปมานานแล้ว ไปกันช่วงนี้เลยละกันนะ แต่ไหนๆก็ต้องไปทางฮ่องกง งั้นเราแว็บไปเที่ยวไต้หวันกันดีมะ หาเรื่องมาก หิหิ สามีโอเค ภรรยาก็จัดสิ เลยจัดแจงเตรียมทริบ งานหลักเก๊าเลย

จากที่เรามีบ้านที่ฮ่องกง ก็เลยมานั่งเปรียบเทียบราคาตั๋วระหว่างบินจากกทมไปไต้หวัน หรือบินจากฮ่องกงถูกกว่า โชคดี evaair มีโปร ตั๋วไปกลับฮ่องกงไทเป สามคนพ่อแม่ลูกแค่หมื่นกว่าบาท ถ้าบินตรง ตกคนละหมื่นกว่าบาท เลยยอมเหนื่อยบินไปฮ่องกง ไปนอนคืนนึง แล้วตื่นไปขึ้นเครื่องอีกรอบ เพื่อความประหยัดนะค่า โอวววว ลืมบอก ถ้าไปฮ่องกงและไปหลายคน เรามีเบอร์แท็กซี่ที่ไปส่งสนามบินแบบคิดเหมาเที่ยวเดียว 200 hkd ถ้าใครสนใจ ส่งมาถามนะ เดี๋ยวเอาเบอร์ให้ พูดอังกฤษได้ แค่บอกว่าให้ไปรับที่โรงแรมอะไร

เราแพลนว่าคราวนี้จะไปเที่ยว Tainan ตอนใต้ของไต้หวัน เพราะไปไทเปหลายรอบละ ตั้งแต่เด็กจนโต ยังไม่เคยไปทางใต้ ได้ยินว่าอาหารอร่อย ด้วยความที่แม่เราเป็นคนไต้หวัน เด็กๆเลยไปบ่อย แต่ตอนนี้ไม่มีบ้านและญาติอยู่แล้ว เราเลยชอบกินอาหารไต้หวันมาก ทริปนี้เลยเหมือนไปเพื่อกิน พอถึงไทเป ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงไป tainan เลย นั่งแค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่ค่ารถแพงอยู๋ คนละพันกว่าแหนะ แต่ก็นะ เพราะเร็วมาก เมืองไทยกว่าจะได้นั่ง น่าจะรุ่นเหลนล่ะค่ะ และแล้วก็พลาดอีก เพราะไปถึงฝนตกหนักค่ะ ตกทั้งวัน ไม่เข้าใจเลย พูดกับกอฟทุกทีว่า ทำไมเป๊าไปถึงที่ไหน ที่นั่นต้องฝนตก!!!! เลยอดเดินชมเมืองวันแรก แต่โชคดีโรงแรมอยู่ติดกับห้างที่ดีที่สุด mitsukoshi แล้วเปรมมาก เพราะห้างแซบมาก จะบอกว่าไต้หวันเป็นสวรรค์ของพวกเสื้อผ้า รองเท้ากีฬา ราคาดี ราคาโดนมาก และมีให้เลือกเยอะมากด้วย อาหารการกิน ค่าครองชีพที่ไต้หวันค่อนข้างถูก เพราะฉนั้นมาเที่ยวไต้หวัน ถือว่าใช้เงินค่อนข้างน้อย แต่คนไทยไม่ค่อยนิยม อาจจะเพราะไม้ได้คิดว่ามีที่ช็อปปิ้งมาก แต่หารู้ไม่ว่า พวกแบรนด์ ราคาไม่ได้แพงไปกว่าฮ่องกง บางครั้งถูกกว่าด้วย เพราะได้ tax refund 5% และคนไต้หวันก็นิสัยดี น่ารัก ชอบช่วยเหลือมาก แนะนำจริงๆนะ นอกจากฮ่องกง ญี่ปุ่น ก็มีไต้หวันนะที่น่าไป บินไม่นานด้วย ใครสนใจส่งมาถามนะ เรื่องโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป ที่ไหนเหมาะกับเด็ก อยากตอบมากกกกก

Tainan เอาจริงๆ ไม่ได้มีที่เที่ยวเยอะเท่าไหร่ มีห้างเก่าดั้งเดิมที่น่าไป แปะลิ้งค์ให้

http://thetaiwanphotographer.com/tainans-old-lin-department-store-%E6%9E%97%E7%99%BE%E8%B2%A8/

นอกจากนั้นก็เป็นพวก street foods แต่เพราะฝนตกเราเลยไม่ได้ไปอ่ะ ลองถามที่โรงแรมดูได้ เราพักที่ cozzi hotel http://www.hotelcozzi.com/en/store/index/xm ดีนะ เป็น family hotel มากๆ ทีแต่ครอบครัวเด็กเล็กเต็มไปหมด มี play area กว้างๆ มีบ่อทราย แนะนำมากๆ ราคาสูงหน่อย แต่ห้องใหญ่เลย สะอาด อาหารเช้าโอเค อย่างที่บอก ข้างๆติดกันเลยเป็นห้าง mitsukoshi เลิฟมาก มีของกิน ของใช้ครบ แต่สำหรับแม่ๆและเบบี๋หน่อย ยังไงก็ควรเตรียมพวกของใช้จำเป็นไปให้ครบ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาซื้อ เพราะคนไต้หวันจะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ พูดแต่จีนกลางกับภาษาไต้หวัน เราไปนอนแค่หนึ่งคืน ก็นั่งรถไฟกลับไทเป

กลับถึงไทเปค่ำๆ เราพักที่โรงแรมนี้ตลอด พอดีครั้งแรกที่ไป พ่อรู้จักกับเจ้าของเลยได้ราคาดี ครั้งแรกที่มาพัก ตอนนั้นท้องไทประมาณ 5 เดือน เดินแหลก ขึ้นเขาลงห้วยสุดๆ โรงแรมชื่อ inhouse อยู่ตรง ซีเหมินติง เป็นอารมณ์สยามแสควร์เมืองไทย เหมาะสำหรับคนที่พึ่งไปไต้หวันครั้งแรก เพราะมีทุกอย่างของกิน ของใช้ ช็อปปิ้ง มีอาหารเช้าให้ด้วย http://inhousehotel.com/en/home.php ราคาก็ไม่แพงนะ ประมาณสามถึงสี่พันบาท เรทเงินไต้หวันจะใกล้เคียงกับเงินบาท สูงกว่าแค่ 0.1 กว่าๆเอง เลยไม่ต้องคิดเลขเยอะ เวลาซื้อของ เหมาๆเป็นเงินบาทไป หิหิ เราพักที่ไทเปสามคืน เพราะต้องกลับไปงานแฟร์ที่กวางเจาอีก คราวนี้เลยชิลๆ ไม่ได้แพลนว่าจะไปไหนเยอะ ที่เคยไปก็ไปมาแล้ว แต่ก็ด้วยความที่ขี้เกียจไปไหนไกลๆ เลยไปที่ใกล้ ที่แนะนำมี jiufen old street เป็นตลาดเมืองเก่า ถ้าไปกับทัวร์ก็จะพาไปแน่นอน เรานั่งรถไฟไปประมาณชมนิดๆ แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีกนิดเดียว จะเป็นตลาดอยู่บนเขา ถ้าเดินไปสุด จะเห็นวิวสวยดี ส่วนมากจะเน้นขายของกิน อาหารไต้หวันจะเน้น street foods แต่ดูสะอาดกว่าเมืองไทยเยอะนะ พวกอาหารจานเล็กๆ เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า ผักลวก บะหมี่หมูสับชามเล็กๆ (ตั้นตั้นเมี่ยน) ขนม เดินไปเกือบสุด จะมีร้านชา แนะนำให้ไปนั่งพักก่อนกลับ เป็นร้านชาเก่าแก่ ร้านสวยดี มีปลาด้วย และข้างนอกมีวิวสวย แต่ถ้าจะเข้าไปนั่ง ต้องสั่งชาเค้านะ แต่ชาดี หอม อร่อย แพงหน่อย แต่คุ้มค่ะ ครั้งแรกที่ไปตอนท้อง5 เดือน เราเดินทั่วหมู่บ้านเลย เหนื่อยมาก แต่คราวนี้ ยิ่งมีลูก ยิ่งไม่ไหว เลยถึงแค่ร้านชา ก็เดินเกลับ อ้อ ก่อนถึงร้านชา จะมีตรงหัวมุม ร้านแบบไม่ค่อยมีป้าย ขายบัวลอยเผือก มัน อร่อยมาก คนจะเยอะๆหน่อย ต้องกินค่ะ มันดีมากกกกกก มีแบบเย็นกับร้อน คนไทยก็ต้องเย็นค่ะ

นั่งรถไฟกลับมาถึงบ่ายๆ ไม่เย็นมาก ส่วนมากเราก็เดินอยู่แถวโรงแรม แต่ที่ไต้หวันจะดังเรื่อง night market หลายๆที่ เดี๋ยวแปะลิ้งค์ให้ว่ามีที่ไหนบ้าง ส่วนตัวเราไม่ได้ชอบทุกอัน และยิ่งมีลูกเล็ก ก็ลำบากหน่อย เพราะถนนจะแคบและคนเยอะ แต่เน้นเรื่องของกินพื้นเมืองนะ

http://www.englishintaiwan.com/shopping-in-taiwan/taipei-night-markets

เราชอบ shida กับ raohe มากที่สุด เพราะนอกจากของกิน ยังมีของอย่างอื่นให้ดู ไม่ใหญ่มาก เดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่คนจะรู้จัก shilin มากสุด เพราะใหญ่มากและมีมานาน แต่การไปเที่ยวไทเป ก็ต้องไม่พลาดการไป night market นะ

อีกที่ที่เราชอบไปเดิน เพราะจะเป็นพวกร้านเล็กๆ เหมือน daikanyama ที่ญี่ปุ่น อาจจะไม่เท่า แต่ก็น่ารักดี เพราะเราไม่ได้ชอบการเดินห้างตลอดเวลา ถนนนี่จะอยู่หลังห้าง Shin-Kong Mitsukoshi Department Store ถนน Da an นั่งใต้ดินไป Da an station ถ้าจำไม่ผิด ลองถามที่ station ดูว่าจะไป da an road ต้องไปสถานีไหน ข้างหลังห้างกับตรงข้ามก็จะมีพวกร้านเล็กๆเยอะแยะ ส่วนห้างก็น่าเดิน ควรไปค่ะ นอกจากตรงตึก Taipei 101 ตรงนั้นก็จะมีห้างหลายห้าง แต่เราไม่ค่อยไป เพราะมันต้องนั่งรถไปไกล

อีกร้านอาหารที่ original และควรไปกิน คือ din tai fung http://www.dintaifung.com.tw/en/ มีอยู่ในห้างด้วย แต่เค้าไม่รับจองนะ ต้องไปรอคิวหน้าร้านอย่างเดียว ที่ควรไปเพราะจะรู้่ว่าอร่อยกว่าที่เมืองไทยเยอะมาก เพราะต้นกำเนิดอยู่ที่ไต้หวันค่ะ

ใครที่ทานเนื้อวัว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวไต้หวันก็แซบ แต่น้ำซุปจะเบาๆนะ

ร้าน hotpot นี่ควรค่ามาก แปะรูปนามบัตรสีแดงๆไว้นะค่า ต้องโทรจองล่วงหน้าหน่อยน้า

อีกอย่างที่ควรลองเรียกว่า เทมปุระ แต่ไม่ใช่เทมปุระทอดๆนะ เป็นแก๊งส์ลูกชิ้นหลายๆอย่าง เมืองไทยไม่มีแน่นอน

https://www.nerdwallet.com/blog/travel/2012/locals-guide-10-musttry-taiwanese-street-foods/

อ้อ แฟนๆชาไข่มุก อย่าลืมหารับทานนะคะ ต้นกำเนิดก็มาจากไต้หวันเช่นกันค่ะ ร้านที่เราชอบ และต้องสั่งไข่มุกเม็ดเล็กนะ ชื่อร้านจะมีเลข 50 อยู่

รูปอยู่ด้านล่างทั้งหมดนะค่า วันนี้ขอจบที่ไต้หวันก่อนค่า จะมาต่อ part 2 เรื่องตะลุยแดนมังกร 🙂


                  

0

เด็กชายไท ชอบไปเที่ยวทะเล

11354729_10155701054325052_1590489327_n

หายไปนานมากๆๆๆๆหง่ะ ยุ่งวุ่นวายกับการเริ่มทำงานเล็กๆน้อยๆ เพราะรู้สึกว่า เป็นแม่เต็มตัวมานานละ อยากหาอะไรทำบ้าง และก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย แมักระทั่งงานที่เลือกทำ คือการทำงานที่บ้าน เพราะระหว่างทำงาน ก็จะมีลิงไทมาคอยกวน จุ๊กจิ๊กตลอดเวลา กว่าจะได้ทำงานจริงๆคือตอนคุณชายหลับ ส่วนกลางวัน นอนครั้งละหนึ่งชั่วโมง แค่กินน้ำ กินหนม เล่นเฟซบุค กำลังจะนั่งทำงาน ไทก็ตื่นอีก บ่นเยอะมาก แหะๆ

จริงๆเคยเขียนเรื่องพาลูกไปเที่ยวทะแลแล้ว ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนการไปเที่ยวทะเลในประเทศไทยยัง เพราะเราเชื่อว่า การไปเที่ยวในประเทศน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆในการตัดสินใจของการพาลูกไปเที่ยว ตั้งแต่เด็กๆ ส่วนมากจะเห็นหลายๆครอบครัว เริ่มพาไปเที่ยวที่หัวหินก่อน เพราะขับรถสะดวก ถนนดี ตัวเลือกโรงแรมเยอะ ถึงแม้โรงแรมมันจะแพงๆๆๆๆๆมาก ราคาโรงแรมนี้ไปนอนฮ่องกงได้ละ แต่ก็เพราะหัวหินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลอันดับต้นๆที่คนไทยนิยมไป พี่แกเลยขายแพงได้ไง วันนี้เราจะมาเรื่องการเตรียมตัว และโรงแรมที่เราเคยไปพักและพอจะแนะนำได้นะคะ

การเตรียมตัว จริงๆไม่ต่างอะไรกับการไปต่างประเทศ ที่ต้องเตรียมเพิ่มก็พวกอุปกรณ์กันแดด ของเล่นทราย ถ้าลูกโตพอจะเล่นทรายได้นะ เพราะการเล่นทรายเนี่ย ไทเพลินมาก เป็นการเล่นที่สามารถเล่นคนเดียวได้เกินครึ่งขั่วโมง แม่ปลื้มค่ะ ยาทากันยุง เพราะชายหาดจะชอบมีแมลงหวี่ที่กัดได้นะ

– ชุดว่ายน้ำ เสื้อพยายามให้ใส่แขนยาว แดดสมัยนี้มันร้ายกาจ เราควรป้องกันให้ลูกตั้งแต่เด็กๆค่ะ กางเกงด้วย สำหรับเสื้อ เราชอบซื้อของ quicksilver ราคาไม่แพงมาก กางเกงก็ h&m ก็มีนะ ถูกมาก คุ้มด้วย ไทใส่มาสองปีละ หมวกแบบที่มีหางปิดตรงคอ เนื้อผ้าจะเหมือนชุดว่ายน้ำของ mothercare

– ครีมกันแดด อันนี้แล้วแต่ชอบเลย เราชอบของ eucerin kids มันดูปกป้องแดดดี พยายามซื้อที่มี ++++ มีบวก 4 อันยิ่งดี เพราะจะป้องกันรังสีได้เยอะอย่างกว่า

โรงแรมที่แนะนำในหัวหิน และเหมาะกับครอบครัวนะคะ

– ชอบมากที่สุด Intercontinental บริการดี ห้องดี อาหารเช้าเริด kids friendly สระว่ายน้ำไม่แซบมาก แต่หาดโอเค

– Hyatt อันนี้ก็โอเค สระว่ายน้ำมีสไลเดอร์ให้เด็กเล่น มีพวก kids room เราว่าเหมาะกับครอบครัวเด็กโตหน่อยมาก เอาลูกไปฝากได้ หิหิ

– v villas เอาจริงๆ ไม่ชอบเท่าไหร่ แพง ดูไฮโซจริง เน้นขายความเป็น butler ส่วนตัว แต่ butler ที่เราเจอไม่โอเคเลย ไม่ค่อย service mind และไม่ได้มี facilities อะไรที่เหมาะกับเด็ก อาจจะไม่เหมาะกับเด็ก อาหารเช้าก็เฉยๆ

– cape nidhra ห้องดี ราคาสูง ส่วนมากมีสระในห้อง ไม่ใหญ่มาก วิวห้องไม่ดี จะไม่เห็นทะเลเลย เห็นแต่ตึกข้างๆ ซึ่งเป็นไซต์ก่อสร้าง บริการพอประมาณ ไม่ว้าวมาก อาหารเช้าโอเค ไม่เหมาะกับครอบครัวและเด็กเล็ก เพราะเหมือน v villas ไม่ได้มี facilities สำหรับเด็กเท่าไหร่ แต่ชายหาดอยู่ทนทำเลที่ดี สะอาด ทรายขาว เพราะชายหาดหัวหิน บางที่จะดูไม่สวย หินเยอะ หาดสกปรก โดยเฉพาะถ้าเลยไปทางเขาตะเกียบ

– Evason อย่าไปเด็ดขาด แย่มาก เคยไปเกือบสิบปีที่แล้ว ก็พอดูได้ พึ่งไปมา มันแย่มาก หาดไม่มีค่ะ ทุกอย่างดูเก่า แต่ดีอย่างเดียวคือมี kids area สระสำหรับเด็ก มีบ่อทรายเล็กๆ นอกนั้นบายค่ะ ไม่ไปอีก ถึงว่าทำไมราคาห้องมันถูก อาหารเช้าก็แย่ค่ะ

ค่ะ เรื่องโรงแรมก็ประมาณนี้ คุณแม่ท่านอื่นๆ ถ้ามีประสบการณ์เจอโรงแรมดีๆก็มาแชร์กันนะ

มาต่อที่ภูเก็ต เราพาไทไปมาสามรอบละ ก่อนมีไท ไม่ค่อยได้ไป เพราะส่วนตัวไม่ชอบเมืองทะเลที่เป็นเมืองนักท่องเที่ยวมาก ชอบแบบเกาะๆไกลๆ อย่างหลีเป๊ะนี่เลิฟมาก

ครั้งแรกที่ไปภูเก็ต ไปกับพ่อแม่เรา เราเป็นคนเลือก เลยลองหาข้อมูล แล้วลองพักที่ jw marriot resort and spa เพราะต้องอยู่ค่อนข้างใกล้สนามบิน ไปทำงานค่ะ ห้องโอเค บริการโอเค อาหารเช้าโอเค แต่ด้วยความที่เป็น chain hotels ทุกอย่างจึงค่อนข้างเป็น standard ไม่ได้มีอะไรแย่หรือดีเกินไป ค่อนข้างชอบ สระว่ายน้ำเด็กดี มีสไลเดอร์เหมือนกัน ถือว่าโอเคเลย แต่หาดไม่ค่อยดีนะ คลื่นสูงด้วยช่วงที่เราไป

ครั้งที่สอง ไปทำงานกับพ่อแม่อีกแล้ว พ่อเราจอง pullman arcadia ชอบมากนะ ห้องดี โรงแรมอยู่บนเนินเขา เลยต้องเดินลงมาเล่นทะเลตรงหาดในทอน ซึ่งมันดีมาก หาดสวยมากๆๆๆๆๆ น้ำใสกิ๊ก เห็นปลาด้วย ตอนที่ไปรัฐบาลพึ่งสั่งให้เก็บพวกเก้าอี้กับร่ม ชายหาดเลยดูสวย สะอาดตามาก เลิฟนายกตู่ค่ะ เราชอบที่สุด ตั้งแต่แคยไปภูเก็ต เพราะชายหาดสวยมาก ข้อเสียอย่างเดียว คืออาหารเช้าไม่ดีมากเท่าไหร่ และนักท่องเที่ยวจีนเยอะมากค่ะ แบบเสียงดังหง่ะ ฝรั่งงงทุกคน โดยสรุป แนะนำโรงแรมนี้มากๆ มีโซนเด็กด้วย

ครั้งล่าสุด พอดีได้ดีลราคาดีจากบัตรเครดิต และเคยเห็นรูปว่าสวย เลยอยากลองไปดู point yamu by como พูดเลยว่า ปกติเป็นคนไม่บ้าถ่ายรูปโรงแรม ห้อง เหิ้งอะไร แต่ที่นี่คือชอบมาก ตั้งแต่ reception พนักงานบริการดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกคนน่ารัก professional มาก พึ่งรู้ว่าเป็นเจ้าของเดียวกับ club21 ห้องงามมาก ที่โรงแรม upgrade ให้แบบมีสระในห้อง ปลื้มค่ะ ห้องใหญ่ ห้องน้ำเริด แต่มีข้อเสียคือไม่มีชายหาดเลย แต่ก็ดีค่ะ ตรงที่โรงแรมมี shuttle เรือหางยาวไปเกาะรังใหญ่ ซึ่งดูจากรูปมันสวยนะ นั่งไปแค่ 15 นาที แต่ๆๆๆๆๆๆ เราเศร้าเพราะไปช่วงฝนตก และดันตกทุกวัน เลยไม่ได้ไปเกาะ ร้องไห้หนักมาก จริงๆ วิวสวยมาก เพราะโรงแรมอยู่บนเขา มองเห็นทะเล ภูเขาครบ ชอบตรงที่ไม่ไกลจากสนามบิน และตัวเมือง อาหารเช้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หง่ะ สรุปว่ายน้ำอยู่แต่ในห้อง แต่ก็ดีเพราะสระในห้องค่อนข้างใหญ่ ไทชอบมาก กลับมาเป็นหวัดเลย เพราะโดดน้ำไม่หยุด อ้อ ชอบที่สุดคือ kids room ดีมากๆ มีของเล่นเยอะมากๆ ห้องใหญ่มากๆ

การเดินทางไปภูเก็ต อย่างเดียว คือเครื่องบินค่ะ แนะนำว่าถ้าเป็นคนชอบกิน ควรเช่ารถ และไปทานในเมือง มีร้านอร่อยเยอะมาก ที่ไปทานมา มี ร้านวันจันทร์ อาหารใต้ ร้านข้าวต้มโกเบนซ์ อาหารซีฟู้ดร้านฮ่องกง ซีฟู้ด ร้านที่มีเพื่อนแนะนำแต่ไปไม่ทัน เพราะไปแค่สามวันสองคืน ร้านน้ำเต้าหู้สามกอง อีกร้านจำไม่ได้และ

เดือนเมษามีไปดูงานแฟร์ที่กวางเจากับไปเที่ยวไต้หวัน ไว้จะมาเขียนต่อนะก๊ะ

0

ของใช้ ของกินเบบี๋และเด็กที่อยากจะแชร์ Part III (เน้นของกินแน่นๆ)

ว่าด้วยเรื่องหม่ำๆ เราเองขอออกตัวก่อนว่าอาจจะแนะนำได้ไม่เยอะ เพราะไทกินค่อนข้างง่าย และไม่ได้แพ้อะไร ที่อยากจะแนะนำคุณแม่ว่า เรามีทางป้องกันให้ลูกแพ้ยังไงบ้าง อย่างแรก ต้องทำกันตั้งแต่ตอนท้อง แต่สำหรับบางกรณี เราก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะพันธุกรรม ถึงแม้คุณแม่จะระวังมากแล้วแค่ไหนก็ตาม ก็ยึดหลักเดิมนะค่า อย่าเครียด ถ้าลูกแพ้อาหาร แพ้นม หรือทานข้าวยาก เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน อย่าเอาลูกเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ลูกเราทุกคนมีความพิเศษในตัวค่ะ อย่างไท กินง่าย แต่นอนยากมากกกกก มันก็ทำให้อิแม่อย่างเราหนื่อยมากเช่นกัน

1. ตั้งแต่ตอนท้องถึงคลอด

  • สิ่งที่ไม่ควรอยู่แล้ว เราว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว พวกเครื่องดื่มมึนเมา น้ำอัดลม เอาจริงๆ เราก็มีแอบกินโค้กบ้าง หิๆ เรายึดหลักง่ายๆว่า เลือกกินอะไรที่มีประโยชน์ ไม่มากไม่น้อยเกินไป พวกผลิตภัณท์นมวัว ควรทานให้น้อยที่สุด ไม่ได้บอกว่าห้ามเลย ก็เกินไป อย่างตอนเราท้อง คืออยากกินเค้กตลอดเวลา ก็กินแค่ให้หายอยาก มีเพื่อนบางคนคือถูกคนรอบตัวคอยบอกว่า ต้องกินนั่นกินนี่เยอะๆ เราว่า เชื่อตัวเองดีที่สุดบวกกับการหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติม อย่างมีเพื่อนคนนึง ตอนท้องแม่สามีบอกให้กินนมเยอะๆ กินวันละเป็นลิตร ลูกออกมาแพ้นมวัวเลย ถึงบอกว่า ทานได้หมด อะไรที่มีประโยชน์ แค่ทานให้พอดี และแต่ละวัน ท่องไว้เลยว่า ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สบายใจ ไม่เครียด
  • วิตามินที่ทานช่วงท้อง มีเพื่อนแนะนำทานวิตามิน แต่ต้องซื้อที่อังกฤษตามร้าน boots เราทานแล้วรู้สึกว่าดีมาก เพราะวิตามินมีครบตามที่คุณหมอแนะนำ และเป็นแบบรวม ไม่ต้องมานั่งกินแยกแบบที่หมอที่นี่ให้ และเป็นวิตามินแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ วิตามินแบรนด์มีให้ทานตั้งแต่ช่วงตั้งท้องจนถึงหลังคลอด ซื้อเผื่อมาเลยก็ได้ ที่ boots จะมีโปร buy 3 for 2 คือซื้อสามกล่องในราคา 2 กล่อง แต่ไม่แนะนำให้ทานตัวที่เป็น omega นะ เพราะสำหรับบางคนอาจจะทำให้น้ำนมข้นและตันได้ เราเองก็ทานแค่ตัวที่เป็นวิตามิน หนึ่งกล่องทานได้หนึ่งเดือน
Screen Shot 2558-04-05 at 9.11.18 AM

ทานช่วงท้อง

Screen Shot 2558-04-05 at 9.12.52 AM

ทานหลังคลอดและให้นม

2. อาหารเบบี๋

  • เป็นอันรู้กันนะค่าว่า เบบี๋ควรให้ทานนมแม่จนถึง 6 เดือน สำหรับบ้านที่ให้นมแม่ได้ปกตินะคะ จนเข้าสู่เดือนที่ 6 ก็เริ่มป้อนอาหาร เราได้เป็นตารางจากคุณหมอธิดาวรรณที่โรงพยาบาล BNH มา ว่าตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไปควรทานอะไรบ้าง พอดีทำใบนั้นหายไปแล้ว เอาที่พอจะจำได้นะค่า แต่ลอง search หาดูน่าจะพอมีให้อ่านอยู่ เริ่มจิบน้ำเปล่าได้ค่ะ
  • 6-9 เดือน ทานอาหารบดละเอียด เริ่มด้วยน้ำข้าวต้มบดละเอียด เราเริ่มให้ด้วยการต้มข้าวกล้องจนเละเป็นโจ๊ก เอามาบี้จนละเอียดมากๆ อาจจะต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู ไม่ต้องใส่เครื่องปรุงอะไรเลย ประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ เริ่มจากแค่หนึ่งมื้อ เราเลือกเริ่มมื้อกลางวัน ส่วนมื้ออื่นก็ยังทานนมเป็นเหลัก อาหารเป็นรองค่ะ ค่อยๆเพิ่มเนื้อสัตว์เข้าไป แต่ก็ต้องบดละเอียด เราให้ทานปลา 90% ส่วนมากจะไปซื้อที่ lemon farm สาขาหลังสวน เพราะปลาที่นี่จะรับมาโดยไม่ใส่สารฟอร์มาลีน ไม่ก็ของยี่ห้อ ธรรมชาติ ที่ Gourmet supermarket, Villa แต่เราชอบของ lemon farm มากกว่า สดกว่า ส่วนเนื้อสัตว์อย่างหมู ก็ซื้อของ S-Pure ผักก็ต้มบดละเอียด ผัก organics ผลไม้เราบดกล้วยน้ำว้ากับอโวคาโดให้ มะละกอก็ได้ แต่ส่วนมากจะกินแต่กล้วยน้ำว้ากับอโวคาโด เป็นผลไม้ระหว่างมื้อกลางวันกับเย็น แล้วก็แอปเปิ้ลนึ่งแล้วบดเอา
  • 9-12 เดือน เพิ่มจากหนึ่งมื้อเป็นสองมื้อต่อวัน อาหารเริ่มเป็นแบบบดหยาบ ตอนนั้นเราใช้เครื่องปั่นอาหารเด็กเอา สะดวกและละเอียดดี ไม่ต้องเมื่อยมือบด ตอนนั้นเราใช้เครื่องปั่นของ beaba babycook มีเพื่อนแนะนำมา ปั่นได้ นึ่งผลไม้ได้ เด็กบางคนถ้าฟันเริ่มขึ้นเยอะ ก็จะสามารถทานอาหารที่หยาบขึ้นได้ อย่างไทฟันขึ้นเร็วมาก ตอน 10 เดือนก็ขึ้น 4-5 ซี่แล้ว พอครบขวบก็ขึ้นเต็มปากแล้ว เลยทานอะไรได้หลายอย่างและไม่ต้องบดหรือปั่นละเอียด เบบี๋แต่ละคนไม่เหมือนกันเลยเรื่องทานอาหาร บางคนทานง่าย บางคนทานยาก ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆปรับ ไข่ คุณหมอไม่แนะนำให้รีบเริ่มทานไข่ และควรเริ่มจากการทานไข่แดงก่อน แล้วดูว่าเบบี๋แพ้หรือเปล่า ส่วนปริมาณ ก็อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เช่นข้าว 1 ช้อนโต๊ะ กับข้าว (ผัก เนื้อสัตว์) 1 ช้อนโต๊ะ แต่ค่อยๆป้อนนะ ทานได้เท่าไหร่ก็เท่่านั้น อย่าไปบังคับให้ทานหมด อย่าพึ่งใส่พวกเครื่องปรุงรส เราเริ่มใส่เกลือตอนไทอายุขวบหนึ่ง อาหารทะเลอย่างอื่น นอกจากปลาอย่าพึ่งทานนะคะ

  • 1 ขวบขึ้นไป ก็เริ่มทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ได้แล้ว อาหารจะเริ่มเป็นอาหารหลัก และนมเป็นอาหารเสริมแทน เริ่มให้อาหารครบ 3 มื้อได้ แต่ต้องดูว่าลูกเราฟันขึ้นเยอะพอที่จะเคี้ยวอาหารได้มากแค่ไหน อาจจะยังต้องบดอาหารให้ทานได้ง่ายๆก่อน ไทเริ่มทานแบบปกติไม่ต้องบดตอนขวบนิดๆ เราก็เริ่มมีใส่เกลือ (sea salt) กับซิอิ้วนิดหน่อย อาหารหลักก็จะเป็น ปลาทะเล ผักเขียวผสมแครอทหรือฟักทอง ข้าวกล้อง เนื้อหมู เนื้อไก่ (เราซื้อไก่บ้านเป็นตัว ตัวเล็กๆที่ villa supermarket มี foodland บางทีก็มี ส่วนมากจะเป็นไก่บ้านตัวใหญ่) พยายามทำอาหารที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำเป็นพวกต้ม นึ่ง พอสักเกือบๆสองขวยถึงเริ่มทานเหมือนผู้ใหญ่ ไทชอบเต้าหู้ เส้นอุด้ง เส้นโซบะ บะหมี เกี๊ยวจีน คืออะไรจีนๆชอบหมด 5555 เลือดแม่แรงมากกก
  • ผลไม้ ทานได้หมด ยกเว้นอารมณ์แบบทานยากไป ทานแล้วร้อนในแบบ ทุเรียน ลำไย ไม่เอาค่ะ ทานมะละกอดีมาก ช่วยเรื่องขับถ่าย กล้วยน้ำว้าทานทุกวันได้ดี วันละลูก แอปเปิ้ล มะม่วง

3. ขนม snacks

  • เราเห็นบางบ้านจะไม่ให้ทานเลย แต่เราให้นะ เป็น snack ติดกระเป๋า เผื่อหิวกลางทาง หรือเผื่อว่าอยู่บนรถนาน เลยเวลาทานข้าว แต่ก็พยายามซื้อ snack ที่เป็นพวก organics ที่ villa มีขายเยอะ เป็นพวก biscuits หรือพกพวกน้ำผลไม้ของดอยคำอย่างน้ำมะเขือเทศ น้ำมะม่วง น้ำสตรอเบอร์รี่
  • ขนมที่ไทชอบ เป็นเหมือนขนมผิง ลูกกลมๆขาวๆเล็ก ซื้อได้ที่ foodland ของญุี่ปุ่นตรงขนมเด็กเล็ก แถวๆนมผง
  • ขนมปัง wholewheat บางทีก็พกติดไว้เผื่อหิว
  • ผลไม้อบแห้ง freeze dried พกติดตัวไว้เหมือนกัน ไทชอบของ wel b ที่เป็นกล้วยกับสตรอเบอร์รี่ supermarket and 7/11 มีนะ
  • yogurt เราให้ทานเป็นของว่าง แบบน้ำตาลน้อย
  • อาหารอีกอย่างที่เราเคยให้ไททานตอนยังทานข้าวสองมื้อ เพราะกลัวช่วงบ่ายจะหิวคือ ข้าวโอ๊ตผสมผลไม้ ตอนนี้เราให้ทานเป็นอาหารเช้าทุกวัน เราว่าสารอาหารครบ แล้วก็ทำง่ายด้วย ต้มเสร็จใส่กล้วยน้ำว้าหรือผลไม้อย่างอื่นที่ลูกชอบ

ทุกวันนี้ไท 2 ขวบ 4 เดือน ทานได้หมด เคี้ยวได้หมด เวลาไปไหนก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกิน แค่ตอนสั่งก็บอกว่าไม่ใส่ผงชูรสนะค่ ได้บ้างไม่ได้บ้าง ตอนไทกทานแต่อาหารบด เวลาไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เราจะปั่นเก็บใส่กระปุกเป็นวันและมื้อไปเลย ใส่กระติกน้ำแข็ง แล้วพอถึงโรงแรมก็ฝากให้ใส่ช่องแข็ง พอจะทานก็แจ้งให้โรงแรมอุ่นให้ จะได้ไม่ต้องห่วงว่าลูกทานอะไรไม่ได้ 🙂 มีอะไรอยากถามเพิ่มเติม ถามมาได้นะค่า xx

0

ของใช้ ของกินเบบี๋และเด็กที่อยากจะแชร์ Part II (แพมเพิส, ของเล่น, เสื้อผ้า รองเท้า)

มามะ มาต่อกันเรื่องช็อปปิ้ง ความสุขเล็กๆน้อยของมนุษย์แม่ กอฟเคยว่าเราบ่อยมากว่า เห็นแผนกเด็กไม่ได้ เป็นต้องรี่ใส่ แล้วก็ต้องคอยหาเรื่องซื้ออะไรสักอย่าง ทั้งๆที่มีอยู่แล้วอ่ะนะ 5555555 แต่ก็ยังคงซื้อต่อไป จนมาระลึกได้ว่า ของลูกเยอะมาก เต็มบ้าน เต็มทุกห้อง เลยมานั่งตั้งสติและบอกตัวเองทุกครั้งก่อนจะซื้ออะไร ถามตัวเองว่า มีหรือยัง จำเป็นไม๊ ใช้ได้นานหรือเปล่า ก็ช่วยได้เยอะ ประหยัดไปเยอะเหมือนกัน

ต่อค่ะ item ชิ้นต่อไป ขาดไม่ได้ คือ

1. Pampers/Diapers

  • เป็นประมาณปัจจัยสี่ของการเลี้ยงลูก สำหรับใครที่มีเพื่อนพึ่งคลอดลูก แนะนำให้ซื้อแพมแพิสให้ค่ะ แต่อย่าซื้อแต่ newborn นะคะ ซื้อคละไซส์ไป เราว่าไซส์ที่ใช้ได้นานสุดคือไซส์ M
  • ส่วนยี่ห้อ ที่เราใช้มาในเมืองไทยนะคะ Mamy Poko ดีที่สุด ซับฉี่ได้ดีที่สุด รุ่นแพงสุดอ่ะ จำไม่ได้ว่ารุ่นอะไร สำหรับเด็กแรกเกิด ยังไงก็ต้องใช้แบบเทป สิ่งที่อยากจะแนะนำคือ ใช้แบบเทปจะซึมซับได้มากกว่าแบบกางเกง (เมื่อถึงวัยใส่กางเกงแล้วนะ) และแบบเทปราคาถูกกว่าด้วย เพราะฉนั้น เมื่อลูกโตพอจะใส่แบบกางเกงได้ กลางวันใส่แบบกางเกง กลางคืนใส่แบบเทป ก็จะประหยัดได้ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าบ้านไหน ใส่ผ้าอ้อมได้ เราว่าดีที่สุด เป็นการฝึกลูกให้ฉี่เองได้เร็วกว่า เพราะเด็กจะรู้สึกถึงความแฉะ แต่เราเข้าใจนะว่า ยิ่งบ้านที่ไม่ได้มีพี่เลี้ยง การใส่ผ้าอ้อมเป็นเรื่องที่เหนื่อยทีเดียว แต่ของเรา ถ้าอยู่บ้านเราก็พับผ้าอ้อมผูกให้ใส่นะ แล้วก็โยนเข้าเครื่องซักที่เดียว ไม่เหนื่อยมาก จะมีวิธีพับผ้าอ้อมอยู่ใน youtube
  • ยี่ห้อที่ไทใส่แล้วแพ้ คือ babylove ถูกจริงอะไรจริง แต่แพ้เป็นผื่นแดงๆ เราว่าเป็นเพราะการซึมซับไม่ดีพอ และทำให้ชื้นและแฉะ
  • สำหรับใครที่มีโอกาสไปญี่ปุ่น ยี่ห้อโปรดเรา คือ merries ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เนื้อแพมเพิสนุ่ม ไม่เคยซึม เลอะเลย ขอบกางเกงนุ่มมากๆ ของ mamy poko เนื้อแพมเพิสจะออกแข็งหน่อย ส่วนราคาก็ถูกมากๆๆๆๆ ตกแผ่นละประมาณ 7 บาท แล้วคุณภาพแบบดีกว่าของเมืองไทยทุกยี่ห้อ หาซื้อได้ตามร้านขายยาใหญ่หรือ aeon supermarket, ร้าน donkihote ซื้อแบบยกลังเลย ลังหนึ่งจะมีประมาณ 4 ห่อ อีกยี่ห้อที่โอเค แต่ต้องเป็นอันที่ผลิตญี่ปุ่นคือ ยี่ห้อ pampers เลย ต้องเป็นตัว premium ด้วยนะ ห่อสีขาวๆทองๆ ถ้าเป็นห่อสีเขียวอย่าไปซื้อ ห่วยมาก ฉี่ซึมตลอดค่ะ
  • อีกอันที่ตอนไปไต้หวัน แล้วลองซื้อมาใช้แล้วชอบ เพราะช่วงนั้นไม่ได้ไปญี่ปุ่น และไม่ได้ฝากเพื่อนที่ไปบ่อยๆแล้ว เกรงใจหง่ะ ยี่ห้อ huggies โอเคเลยนะ

2. ของเล่น หนังสือ

  • เราชอบซื้อหนังสือมาก ถ้าไปห้างแล้วเข้าร้านหนังสือ ต้องซื้อทุกที เราเคยอ่่านเจอว่า เราสามาระเอาหนังสือรูปภาพให้ลูกดู เล่านิทาน ร้องเพลง ทำเสียงให้ลูกฟัง ได้ตั้งแต่ลูกเริ่มลืมตาได้เต็มที่ ถ้าไปที่ asia books หรือ kino จะมีหนังสือเด็กที่เขียนอายุว่า 0+ หนังสือประเภทสีสัน มีกระจกเงา มี texture ให้จับ มีเสียง จะดีมากกับการพัฒนาการของลูก และเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูกด้วย ทุกวันนี้ กิจกรรมระหว่างวันนอกจากเล่นแล้ว เราให้ไทคือการอ่านหนังสือ ก่อนนอนกอฟต้องเป็นคนเล่านิทานให้ฟัง และตอนที่ให้ไทดูหนังสือครั้งแรก มันมหัศจรรย์มาก คือดูรู้เลยว่าไทชอบ มองตามเวลาเราพลิกหนังสือเปลี่ยนหน้า หลังจากวัย 0+ ก็สามารถหาหนังสือที่เหมาะกับวัยได้เรื่อยๆค่ะ
  • ของเล่น เราเคยอ่านที่คุณหนูดีเขียนว่า ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก คือที่เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสวนในบ้าน หรืออะไรก็ตาม แต้เข้าใจว่า บางบ้านก็อยู่คอนโด ไม่ได้มีพื้นที่สวนให้เล่น และเมืองไทยก็ไม่ได้เป็นเมืองที่เราจะสามารถพาลูกออกไปปิคนิกในสวนได้นะคะ ของเล่นเด็กอ่อน สมัยนี้มีเยอะมาก อย่างพี่โซฟี ยีราฟ กัดได้ มีเสียงด้วย ก็เหมาะกับช่วงฟันขึ้น เรามีซื้อพวกตุ๊กตา mobile ที่ห้อยกับรถเข็น ก็ช่วยบ้างเวลาไทงอแง นอนมองไป แล้วก็จะมีอันที่ให้ดึงๆได้ มีเสียงอะไรประมาณนี้
  • สำหรับเด็กที่เริ่มเดินได้แล้ว เราอาจจะแนะนำได้สำหรับเด็กผู้ชายเป็นหลักนะคะ ต้อขออภัยด้วยหง่ะ คุณหนูดีแนะนำค่ะ การเล่นพวกตัวต่ออย่าง lego จะดีที่สุด ดีกว่าเล่นของเล่นอย่างอื่น แต่บางครั้ง lego ก็แพงเกินไป คุณหนูดีบอกว่า หาของเล่นที่มีลักษณะเป็นตัวต่อแบบอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ
  • ขอวกกลับมาเรื่องหนังสือ สำนักพิมพ์ที่เราชอบและแนะนำมากคือของ Urborne (http://www.usborne.com/) ชอบเนื้อหา ลายเส้น รูป โดยเฉพาะหนังสือที่เป็น flap book ที่แต่ละหน้าจะมีให้เปิด flap ดูตามรูป ไทชอบมาก เดี๋ยวจะมาแปะให้ดูบางเล่มที่ไทชอบ โดยมากจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับรถ รถไฟ รถอุปกรณ์ก่อสร้าง สัตว์ต่างๆ และราคาของหนังสือต่างประเทศในเมืองไทย ถูกกว่าที่อื่นที่เราเคยไปดูมา เราโชคดีมาเรื่องนี้นะค่า ร้านหนังสือที่เราซื้อประจำก็ Asia Books and Kinokuniya แต่แอบชอบซื้อ Asia books มากกว่า เพราะเป็นสมาชิกได้เรื่อยๆนะ ประมาณซื้อครบเท่าไหร่ก็เป็นสมาชิกลด 10% ได้ แต่ Kinokuniya ต้องเสียค่าสมัครทุกปีอ่ะ เอารูปมาแปะให้ดูคร่าวๆ จริงๆพาลูกไปเลือก เราว่ามันเป็นอะไรที่ดีนะ อย่างเราเวลาพาไปร้านหนังสือ ไทก็ยืนมองหาละ อันไหนมีรถไฟ หรือรถ หรืออะไรก็ตามที่เค้าชอบ เราก็จะหยิบมาสองสามเล่ม ให้ไทเปิดดู ให้เวลานานหน่อย จะไม่ไปเร่งเค้า แล้วถามเค้าว่า ชอบเล่มไหน เพราะอะไร ชอบจริงๆนะ ถึงจะซื้อให้ สำหรับเรา เวลาซื้อหนังสือให้ไท ต่อให้ช่วงนั้นจะกรอบแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยเสียดายเงินเลย 🙂

look-inside-things-that-go-2013 fyt-abc-_flap first-1000-words-english-40-years

3. เสื้อผ้า รองเท้า

  • เชื่อว่า หัวข้อนี้ แม่ๆที่มีลูกสาวอาจจะ expert กว่าเราอ่ะ 55555 สำหรับเรา ตั้งแต่เด็กจนโต ตู้เสื้อผ้าในตู้ไท 90% จะเป็นของ muji เพราะแม่เราไปบ่อยก็เคยซื้อมาให้ตอนไทไม่กี่เดือน จนทุกวันนี้ยังใส่ได้อยู่เลยอ่ะ แหะๆ แล้วโดยส่วนตัวเราชอบเสื้อผ้าเรียบๆให้ลูกใส่ ไม่ชอบลายเยอะๆ เมืองไทย muji พึ่งเอาของเด็กเข้า และน้อยมาก เยอะสุดก็ยังเป็นญุี่ปุ่นและราคาถูกมาก เนื้อผ้า cotton ก็ดี ใส่สบาย ไม่ร้อน และไทเป็นเด็กขี้ร้อนมาก หน้าร้อนนี้ใส่แต่เสื้อกล้าม ขาสั้น ไม่ก็ใส่แต่กางเกงในอยู่บ้าน
  • ชุดนอน เราชอบของ mothercare ที่เป็นเสื้อแขนขายาว เพราะไทเป็นเด็กไม่ยอมห่มผ้าห่ม เมืองไทยขายแพงมากกกกก ไม่เคยซื้อ ตอนน้องชายยังเรียนอยู่อังกฤษ เลยซื้อ online ส่งไปบ้านน้อง ที่เมืองไทย H&M ก็มีให้เลือกอยู่ ราคาพอรับได้ แต่บางอย่างก็แพงไป และคุณภาพเนื้อผ้าก็ไม่ดีมาก นอกจากเลือกตัวที่เป็นผ้า organic ก็จะโอเคหน่อย
  • รองเท้า ตอนไทเกิด เราสังเกตุว่าขาไทงอนิดนึง และด้วยความที่เราและกอฟขาโก่ง ก็กลัวว่าไทจะขาโก่ง พอเริ่มเดินได้ ก็ไปตัดรองเท้ากับหมอชายธวัชที่โรงพยาบาลสมิติเวช ก็ใส่มาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ และไทก็เดินดีขึ้นนะ เป็นรองเท้าหุ้มข้อหนัง มีสีให้เลือกเยอะเลย เรา น้องเราก็ตัดกับหมอมาตั้งแต่เด็ก แต่เดี๋ยวนี้มีสีให้เลือกเยอะมาก สำหรับเด็กผู้หญิงก็มีหลายสี แต่…….ด้วยความที่อิชั้นเป็นคนที่ชอบรองเท้ามาก จึงอดไม่ได้ที่จะแอบซื้อรองเท้าให้ลูกตลอดเวลา และเท้าเด็กก็โตเร็วมากกกกกก ใส่ไม่ทัน บางคู่ใส่ไปแค่ครั้งเดียวเอง นอกจากรองเท้าคุณหมอ รองเท้าที่เราว่าดีมาก และไทชอบใส่คือ asics เมืองไทยราคาสูง ญีปุ่นถูกสุดค่า คู่ละพันนิดๆ เมืองไทยขายสองพันกว่าบาท ไม่รู้ตอนนี้ราคาลงหรือยังนะคะ asics เป็นรองเท้าเด็กที่ดีไซน์มาให้เหมาะกับเท้าหัดเดินของเด็ก พื้นจะหนา หน้ากว้าง ใส่ง่าย มีหลายสี แบรนด์โปรดอิชั้นมาก ถ้าเป็นรองเท้าลำลองกึ่งแตะ ก็มี nike ที่โอนะ ไม่แพง ซักได้บ่อย อีกยี่ห้อที่ใส่ง่าย แต่เราว่าเด็กต้องเดินแข็งหน่อย เพราะพื้นไม่ได้หนามากคือ victoria เราชอบทรง น่ารักดี เข้ากับเสื้อผ้าง่ายด้วย

asics baby shoes

วันนี้คิดออกแค่นี้อะ สมองไม่ค่อยแล่น อากาศมันร้อนเกินไปแล้วมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวคิดออกแล้วมาเขียนต่อน้าา xx

0

What to expect after the delivery (0-3 months)

ขอยืมประโยคจากชื่อหนังสือยอดฮิตสำหรับแม่ๆนะค่า ก่อนจะคิดและเขียนเรื่องของใช้สำหรับเบบี๋ตอน 2 เลยมานั่งคิดเองเออเองว่า จริงๆ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่คลอดไท เราทำอะไรบ้างในบทบาทของคำว่า “แม่” เลยคิดว่า ขอระลึกกลับไปตั้งแต่หลังคลอดว่า เจออะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่มือใหม่ หรืออาจจะมีคุณแม่ท่านไหนที่กำลังเจอปัญหาแบบที่เราเคยเจอมาก่อน ขอเล่าเป็นช่วงๆอายุเดือนของเด็กชายไทนะคะ

ตั้งแต่วันคลอด

IMG_0228IMG_0236IMG_0235IMG_0253

  • ความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นคือ จะ คลอด ธรรมชาติ ค่ะ ก็อุ้มท้องรอ รอ รอ จนถึง week ที่ 41 ก็ยังไม่มีวี่แววว่าปากมดลูกจะเปิด ไปเดินช็อปปิ้ง midnight sale ก็แล้ว เดินสวนก็แล้ว ว่ายน้ำก็แล้ว เด็กชายไทก็ไม่ยอมออกมาสักที สุดท้ายคุณหมอบอกให้รออีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้ายังไม่คลอดก็กำหนดว่าผ่าเลย เพราะกลัวรกเสื่อม และจาก ultrasound เด็กชายไทหัวใหญ่มาก คุณหมอกลัวอิชั้นจะเบ่งไม่ออก เพราะดูแล้วเป็นคนขี้กลัวมาก หมอแซวว่า จะไหวเร้อ แค่ตรวจปกติก็ร้องจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็ต้องผ่าคลอดค่ะ ก็หาฤกษ์กันไป วันที่ 13 ธันวาคม 2012 (ในรูปเซตวันที่ผิดค่ะ) เบบี๋ไทก็อุแว้ออกมา ขอเล่าประสบการณ์หลอน คือตอนที่ฉีดยาบล็อคหลัง หมอบล็อคหลังก็เริ่มฉีด ฉีดเสร็จก็ต้องมาเช็คว่ายังรู้สึกตรงนั้นตรงนี้ไม๊ เราก็บอกว่ารู้สึกค่ะ หมอก็งง เราก็งงและก็กลัว พอหมอสูติเข้ามาจะเริ่มผ่า และพอเริ่มกรีด เราก็ร้องกรี๊ด เพราะรู้สึกได้ถึงการลงมือกรีดท้อง หมอและพยาบาลตกใจมาก เลยรีบโปะยาสลบเลย แต่สัณชาตญาณของความเป็นแม่มันช่างแรงกล้า เพราะขนาดโดนยาสลบ ไม่น่าจะตื่นได้ ตอนที่สลบอยู่ มันเห็นเหมือนที่เค้าเล่าๆกันว่า เห็นเป็นอุโมงค์ดำๆ แล้วเหมือนเรากำลังเดินออกมา เห็นจุดแสงขาวๆอยู่ปลายทาง พร้อมกับได้ยินเสียงเด็กร้อง เราจำได้เลยว่า เราฝืนตัวเองให้ลืมตาขึ้นมา เห็นหน้าลูกแพพนึงประมาณ 5 วินาที เห็นกอฟอุ้มและยื่นลูกมาตรงข้างหน้าเรา แล้วเราก็หลับต่อ หลังจากนั้นตื่นมาในห้องพักฟื้น คำถามแรกที่ถามพยาบาลคือลูกแข็งแรงปลอดภัยไม๊คะ พอได้ยินว่าปลอดภัย ก็หลับต่อ จนตื่นและกำลังกลับเข้าห้องพัก
  • พอถึงห้อง อย่างแรกที่อยากทำ และเชื่อว่าเป็นเหมือนกันทุกคน ยกเว้นคุณแม่ที่โชคดีได้คลอดธรรมชาติก็จะได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกน้อยเลย สิ่งแรกที่ถามและอยากทำคือ จะเอาลูกอ่ะ ลูกอยู่ไหน เอามา เอามา กอฟบอกว่ากำลังให้คุณหมอเช็คร่างกายอยู่ รู้สึกว่า หลัังจากนั้นสักไม่เกิน 20 นาที พยาบาลก็เข็นลูกมา โอ้วววว ณ โมเม้นท์นั้น ตอนที่เราอุ้มลูกเรา เด็กที่อยู่ในท้องเรามา 9 เดือน เตะเราอย่างหนักหน่วง 5555 อยู่ในอ้อมแขนเรา เชื่อว่าทุกคนคิดเหมือนกันว่า มันอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ และนั่นแหละ คือ โมเม้นท์ที่ชัดเจนมากว่า เราเป็นแม่คนแล้วนะ
  • วันเดียวกัน คุณหมอเด็กที่รับตอนเราคลอด ก็มาบีบนมว่าน้ำนมไหลยัง เราโชคดีที่น้ำนมมาเลยตั้งแต่วันแรก ก็เอาไทมาดูดจ๊วบๆเลย

วันที่สอง-วันออกจากโรงพยาบาล

IMG_0355

  • คุณหมอมาปรึกษาว่าต้องการขลิบหรือไม่ ก็ลังเลแพพ แต่ก็ตัดสินใจว่าขลิบ เพื่อสุขอนามัยของลูกค่ะ ทำตอนนี้ดีกว่าทำตอนโต พยาบาลบอกว่าไทร้องเสียงดังมาก หลังขลิบ สงสารมากอ่ะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เหนื่อยมากๆกับการที่ต้องให้นมทุก 3 ชั่วโมงตลอดทั้งวันและคืน เรานอนโรงพยาบาล 3 คืน ตามแพ็คเก็จ คุณหมอก็ปล่อยกลับ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร วันกลับไปเปลียนชุดที่ห้อง nursery พยาบาลเดินมาเกือบทุกคนว่า บ๊ายบายเด็กยักษ์ เอิ่มมมม ควรดีใจมะคะ เพราะช่วงวันที่ไทเกิด ไทมีน้ำหนักตัวหนักชนะเลิศค่ะ ตัวใหญ่สุด เวลาไปดูตรงห้องกระจกแล้วเอาเบบี๋มาเรียงกัน ไทตัวใหญ่มว้ากกกกก เด็กยักษ์จริงๆอ่ะ
  • อ้อ ควรจะเตรียม carseat สำหรับรับลูกกลับบ้านด้วยค่ะ ปลอดภัยก่อนนะคะ ถ้าไม่มีก็อุ้มลูกนั่งข้างหลังค่ะIMG_0300

0-3 เดือนแรก

IMG_0439

IMG_0691

  • พอกลับบ้าน ก็เริ่มภารกิจของแม่นมวัว ด้วยความที่ไทเป็นเด็กผู้ชายและเกิดมาตัวใหญ่ ไทเลยกินเยอะและบ่อยมาก คือได้นอนตอนกลางคืนไม่เคยเกิน 2 ชั่วโมง ไม่ตื่นมากินนม ก็อึ แล้วก็ปั๊มนม สภาพร่างสองพ่อแม่เป็นซอมบี้มากๆ
  • ปัญหาที่เครียดที่สุดช่วงแรกคือ หัวนมแตกค่ะ เพราะไทดูดแรงและการดูดไม่ถูกต้อง อยากจะบอกว่า ไม่เคยเจ็บอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต แตกเลือดออก แต่ก็ยังฝืนให้ต่อไป ต้องป้ายยาแก้ร้อนในที่หัวนม คือลูกดูดไป ร้องไห้ไปเพราะเจ็บมาก ตอนนั้นกอฟสงสารเรามาก บอกว่า หยุดให้ดีไม๊แล้วให้นมสต็อคหรือนมผง เราแบบคิดแล้ว ไม่อะ สู้ต่อ เพราะช่วงเดือนแรก ถ้าเริ่มให้ขวดก็จะติดขวด และกลับมาดูดเต้ายาก สุดท้ายเราก็อดทน จนปรับ position ของปากไทเวลาดูด และโชคดีที่ไปเจอพยาบาลที่สมิติเวช สุขุมวิท ช่วยสอนท่าให้นม จนทำได้ในที่สุด หลังจากผ่านไปเกือบสองเดือน พูดเลยว่าเครียดมากๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนั้นไล่โทรหาเพื่อนๆพี่ๆที่มีลูกกระจาย แต่ไม่มีใครที่เยินเท่าเรา และต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้คำปรึกษาด้วยนะค่า
  • ต่อมาด้วยปัญหาที่สอง เต้านมคัดอักเสบ เป็นก้อน เพราะขี้เกียจปั๊มทุกสามชั่วโมง เกเรไง แล้วนมก็เยอะและข้นมาก จนแข็งเป็นก้อน ไข้ขึ้น ตัวสั่น รีบไปหาหมอที่ BNH ก็โดนค่ะ โดนบีบและรีดนมตรงที่เป็นก้อน ตายตรงนั้นเลยค่ะ หมอต้องให้พยาบาลสองคนมาตรึงแขนไว้ อิชั้นกรี๊ด ร้องไห้ลั่นโรงพยาบาล อันนี้เจ็บที่สุดในชีวิตอีกครั้ง โชคดีว่ายังไม่เป็นหนอง ไม่ต้องเอาเข็มเจาะเข้าไป กินยาแก้อักเสบ และก็กลับมาให้นมต่อไปค่ะ เพราะฉนั้น ต้องมีวินัยในการปั๊มนมค่ะ และถ้ายังเป็นก้อนไม่มาก การให้ลูกดูดจะดีที่สุดและหายเร็วที่สุด โดยไม่เจ็บตัว และอย่าทานอะไรมันๆ เพราะจะทำให้น้ำนมข้นและอุดตันได้ง่าย
  • ทั้งนี้ สำหรับคุณแม่บางท่านที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อย ไม่พอ เท่าที่เราเคยอ่าน น้ำนมสามารถกระตุ้นได้ด้วยการให้ลูกดูดกระตุ้น แต่ก็มีเพื่อนๆบางคนที่น้ำนมน้อยจริงๆ สำหรับเรา ยอมรับว่าตอบไม่ได้ว่าต้องทำยังไง แต่เราแนะนำว่า ปรึกษาคุณหมอเด็ก ที่โรงพยาบาลที่เน้นการให้นมแม่เท่านั้น จะดีที่สุด คุณหมอจะดูน้ำหนักลูก และให้คำแนะนำได้ ย้ำนะคะ ควรไปปรึกษาคุณแม่ที่โรงพยาบาลที่เน้นการให้นมแม่เท่านั้นค่ะ และที่สำคัญ ห้ามเครียดว่าทำไมไม่มีนม ห้ามเปรียบเทียบกับแม่คนอื่น เราทุกคนย่อมอยากจะทำดีที่สุดสำหรับลูกเรา อย่าไปเครียด ยิ่งเครียด น้ำนมยิ่งหดค่ะ ดื่มน้ำเปล่า ไม่เย็น เยอะๆ หัวปลีช่วยได้จริงๆ แต่ถ้าอดทนทานแบบจืดได้ยิ่งดี การที่เราไม่สามารถให้นมลูกได้ โดยที่เราพยายามแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ อย่าโทษตัวเองเด็ดขาด
  • การอยู่เดือน อาหารการกิน แม่เราเคร่งมากกกกก หนึ่งเดือนที่เรากินอาหารโดยไม่ใส่เกลือสักอย่าง แล้วเมนูเนี่ย ทุกวันนี้เลยเลิกกินเลยค่ะ เมนูคือ กระเพาะปลาสด หัวปลีกระดูกหมู ตับหมู ปลานึ่ง ไก่ดำ (จริงๆไม่ควรใส่สมุนไพรนะคะ เพราะสมุนไพรบางตัวก็ไม่ได้ดีกับการอยู่เดือนทุกอย่าง) กินวนมันอยู่อย่างนี้หนึ่งเดือน โดยไม่มีเกลือแม้แต่หยดเดียว อดทนค่ะ เพราะคนจีนเชื่อว่า การอยู่เดือนเปรียบเสมือนการเกิดใหม่ของผู้หญิง ก็ต้องทานอะไรที่ดีที่สุด เพื่อบำรุงเลือดที่เราเสียไปตอนคลอด และเพื่อตอนเราอายุมากขึ้น จะไม่ป่วยง่าย หลังออกเดือน อิชั้นทานอย่างบ้าคลั่งมาก แต่ก็ต้องระวัง เพราะจะมีผลกับน้ำนมค่ะ
  • อาบน้ำ สระผมได้หรือไม่ คือปกติเป็นคนต้องสระผมทุกวัน เพราะฉนั้นพูดเลยว่า ทำไม่ได้ค่ะ แต่อาบและสระน้ำอุ่นเท่านั้น และรีบเช็ดให้แห้ง เป่าผมให้แห้ง ถ้าคุณแม่ท่านใดทำได้ อิชั้นนับถือมากค่ะ
  • อยู่ไฟ อันนี่แล้วแต่ความชอบและความเชื่อเลย เราเองไม่ประทับใจกับการอยู่ไฟ เพราะคนที่มาทำ มือหยาบ นวดแรง ไม่ชอบเลย เลยเลิกตั้งแต่วันที่สอง เสียตังค์ฟรี เลยถามคุณหมอสูติว่า การอยู่ไฟนี่ตกลงจำเป็นหรือไม่ คุณหมอบอก จริงๆแล้วไม่จำเป็น บางครั้งมีผลเสียกับร่างกายด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นความเชื่อของคนไทยมาช้านาน ถ้าทำถูกวิธี ไม่รุนแรงก็ไม่มีปัญหาอะไร เพื่อนหลายคนชอบนะ เพราะรู้สึกเหมือนผ่อนคลาย มีการนวด สครับไรงี้ เราโชคไม่ดีเจอหมออยู่ไฟไม่ดีหง่ะ
  • เชื่อว่า คุณแม่ทุกท่านน่าจะรู้ตรงกันว่า 0-6 เดือนให้ทานแต่นมแม่หรือนมเท่านั้น ไม่ควรเสริมอาหารใดๆทั้งสิ้น ใครจะมาพูด จะมาว่า อย่าไปเอามาเครียดค่ะ เราเองก็คนหนึ่งและรวมอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเดียวจน 6 เดือน แล้วลูกก็แข็งแรง ปกติดี น้ำก็ไม่ต้องทานนะคะ แต่ไม่แน่ใจจริงๆว่า ถ้าทานนมผง อาจจะต้องมีให้ทานน้ำตามหรือเปล่า สำหรับนมแม่ ไม่ต้องให้ทานน้ำค่ะ
  • ช่วงสามเดือนแรก ถือว่าเป็นช่วงปรับตัวทั้งสำหรับพ่อแม่ และลูก ลูกเราพึ่งเกิดมา เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า ลูกก็คงงงๆเหมือนกับที่พ่อแม่งงนี่แหละ แต่ละบ้านก็เจอปัญหาแตกต่างกันไป แต่อย่าท้อ อย่าเครียด แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ อ่านหนังสือ google ถามเพื่อนๆพี่ๆที่มีประสบการณ์ค่ะ อย่างเราจะชอบมากถ้ามีใครมาถาม ชอบตอบมากกก website ที่เราอ่านประจำและสมัครให้ส่ง email หรือ dowload app ได้คือ babycentre.co.uk จะแบ่งเป็นช่วงอายุของเด็กให้เราอ่าน
  • ลูกนอนเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน เราต้องหลับทันทีค่ะ เรียกว่าลักหลับ เราเองต้องพยายามพักผ่อนให้ได้มากที่สุด พอพ้น 3 เดือน ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้นมาก ท่องง่ายๆว่า ลูกหลับเราหลับ เพราะอย่าลืมว่า ในขณะที่ทุกคนหลับ เราต้องตื่นมาปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงค่ะ

IMG_0808

ไว้มาเขียนต่อสำหรับเดือนถัดไปนะค่า วันนี้เขียนสองโพสต์แล้ว เดี๋ยวเบื่อกันก่อนหง่ะ xx

0

ของใช้ ของกินเบบี๋และเด็กที่อยากจะแชร์ part 1

ต้องบอกก่อนว่าตัวเองเป็นคนที่ค่อนข้างบ้าอะไรก็ตามเป็นสินค้า organics หรือ natural made เพราะด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านนู่นนี่ ก็จะอ่านเจอว่าโลกเราสมัยนี้มันเปลี่ยนไปเยอะ ของใช้ของกินที่เราใช้และกินอยู่ มีส่วนผสมของอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดโรคนั่นนี่ในอนาคต และด้วยความที่เป็นคนป่วยง่าย ก่อนแต่งงาน เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยกว่าไปห้าง ผ่าตัดมาหลายที เลยคิดว่า ถ้าเราจะใช้หรือกินอะไร ก็ควรเลือกที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะก่อให้เกิดโรคในอนาคต และไม่อยากเป็นภาระใครถ้าเราต้องป่วย เลยเริ่มต้นอ่าน ศึกษา พวกสินค้า แบรนด์ต่างๆที่รับรองว่าเป็นสินค้า organics แต่ต้องบอกก่อนว่า ด้วยความที่ซื้อมาเยอะ ใช้มาหลายอย่าง ไม่ใช่ทุกอย่างที่เป็น organics จะใช้ดีทุกอย่าง บางอย่างอาจจะไม่ชอบกลิ่น ไม่ชอบผลที่ได้จากการใช้ ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ แต่เรื่องของกิน อันนี้ถ้าเลือกซื้อได้ ก็จะเลือกที่เป็น organics หรือผลิตภัณท์ปลอดสารต่างๆ เดี๋ยวขอไล่ลงไปทีละอย่างนะก๊ะ ขอเริ่มด้วยของใช้เบบี๋ที่เราใช้มาแล้วอยากจะมาแนะนำก่อนนะคับ

1. พวกผลิตภัณท์อาบน้ำ สระผม โลชั่น

  • ในเมืองไทย หาซื้อได้ง่าย เราใช้ Baby mild ขวดเขียวๆ กับขวดขาวๆ อันนี้คือหาได้ทั่วไปนะ
  • Eucerin/Sebamed สองแบรนด์นี้ก็โอเค ที่ไม่ใส่พวก paraben, SLS อะไรพวกนี้ หาซื้อได้ตามโรงพยาบาลกับร้าน boots/watson
  • ตอนนี้เมืองไทยทำแบรนด์ organics สำหรับแม่และเด็กออกมาหลายแบรนด์ เอาจริงๆยังไม่ได้ลองซื้อมาใช้ เพราะเวลาไปต่างประเทศ ก็ชอบไปแอบซื้อมาลองใช้
  • เราชอบแบรนด์ Avado ของ Australia แป้งเด็กใช้ดีนะ สบู่กับแชมพูก็โอ แบรนด์นี้ น่าจะ pure organics ซื้อที่ฮ่องกงได้
  • ถ้ามีโอกาสไปฮ่องกง จะมีให้เลือกเยอะมาก เลือกเอาตามที่ชอบได้เลย

2. รถเข็น carseat

  • เคยแอบเล่าไปแล้วว่า โดยส่วนตัวเราชอบของ Aprica เพราะเคยถามเพื่อนญี่ปุ่น เพื่อนบอกว่าคนญี่ปุ่นส่วนมากจะเลือกใช้ Aprica เพราะเป็นแบรนด์เก่าแก่ ถูกที่สุดคือที่ญี่ปุ่น รองลงมาก็ไต้หวันกับฮ่องกง ร้านที่เป็นตัวแทนของเมืองไทย พูดเลยว่าไม่ปลื้มบริการ service แย่มากๆ พนักงานก็พูดจาไม่ค่อยดี แต่ข้อเสียของการซื้อจากเมืองนอกคือ ถ้าเสีย ตัวแทนร้านนี้จะไม่รับซ่อมเลย แต่สำหรับที่เราใช้มา ซื้อมาทั้งจากตัวแทนในไทยกับต่างประเทศก็ยังไม่เคยต้องส่งซ่อมอะไร เพราะรถเข็นทนมากๆ คันแรกเราซื้อรุ่นที่ปรับนอนได้ karoon plus ไม่รู้ตอนนี้ยังใช้ชื่อรุ่นนี้ป่าว ที่ซื้อเพราะปรับนอนได้ และน้ำหนักเบา คือรู้ตัวว่าตั้งใจจะเลี้ยงลูกเอง ก็คงต้องทั้งแบกลูกและรถเข็น ซื้อรุ่นใหญ่ๆคงไม่ไหว คันที่สองซื้อรุ่น Soraria Premium เพราะตอนนั้นมีพี่เลี้ยง และชอบที่ด้ามเข็นสูงกว่า แต่ใช้ไปไม่เกิน 5 ครั้งก็ขายต่อ เพราะหนักมาก สำหรับเรา แต่สำหรับคนอื่นที่เที่ยบกับแบรนด์ยุโรปหรืออเมริกาอาจจะเฉยๆ คันสุดท้ายที่ตอนนี้ใช้อยู้ และชอบมากรุ่น magical air เบาแค่ 2 กิโลกว่า แ่ปรับนอนไม่ได้ แต่แบบเอนๆ แต่ไทนอนได้ยาวนะ คันนี้ไม่น่าจะเหมาะกับเด็กแรกเกิด เหมาะกับเด็กที่เริ่มเดินได้แล้ว
  • ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเลยค่ะ ไปที่ร้านลองเข็นดู หรือรอพวกงาน baby best buy
  • Carseat เราก็ใช้ของ ailebebe kurutto premium ชอบมากนะ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงน่าจะประมาณ 3 ขวบ ปรับได้เยอะ หมุนได้รอบ ตอนเด็กๆไทนั่งแล้วหลับทุกที ตอนนี้ไม่ยอมนั่งละ เร็วๆนี้ ซื้อเพิ่มใส่รถอีกคัน ซื้อมือสองจากร้านขายของญี่ปุ่นมือสองของ maxcosi ดีเหมือนกัน ดูแข็งแรง แต่ปรับได้ไม่เยอะ แบรนด์นี้เท่าที่เคยอ่านรีวิวก็เป็นแบรนด์ที่ทำ carseat ค่อนข้างดีนะ

carseat

Carseat Kurutto Premium


magical

Stroller Aprica Magical Air

3. baby carrier เป้อุ้มเด็ก มีเพื่อนๆหลายคนถามมาเหมือนกันว่าอันไหนดี แล้วดียังไง เราเองอ่านจากรีวิวเหมือนกัน ตอนที่จะตัดสินใจซื้อ ตอนแรกแม่เราบอกว่า ไม่ได้ใช้หรอก เพราะในยุคเค้า มันไม่มีใครใช้กัน ก็เลยไม่เห็นความจำเป็น ซึ่งสำหรับบ้านไหนที่มีพี่เลี้ยงเด็ก เอาจริงๆก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่เราจำเป็นมากกกก เลยต้องศึกษาดีๆก่อน

  • สุดท้ายตัดสินใจซื้อของ Ergo baby จะแปะรูปไว้นะคะ เพราะอ่านจากรีวิว ก็ดูน่าใช้ และชอบตรงที่ตรง support เอวมันแผ่นใหญ่ เคยได้ของ Combi เป็นของขวัญ เลยลองมาใช้เปรียบเทียบ ต่างกันตรงการ support ช่วงเอวมาก ของ Combi จะเป็นเส้นบางๆ พออุ้มไปนานๆก็จะเมื่อยมาก ส่วนของ Ergo baby จากที่ใช้ เราว่ามันเป็น feeling ที่ดีของตำแหน่งลูกกับแม่หรือพ่อ โดยมากจะเอาลูกหันหน้าเข้าตัวเรา ลูกจะรู้สึกแนบเนื้อมากกก และคงเป็นความรู้สึกอบอุ่น ไทขึ้นเป้ ก็หลับง่่ายเหมือนกัน ราคาของ Ergo มีหลายราคาเริ่มต้นประมาณ 4-5000 บาท ตอนนี้ราคาอาจจะลงแล้วนะ ตอนนั้นของเราซื้อรุ่นที่เป็นเนื้อผ้า Organics แล้วแพงกว่านิดหน่อย อ้อ มันจะมีตัวเสริมคล้ายๆเบาะสอดเข้าไปในเป้ สำหรับเด็กแรกเกิด ไม่จำเป็นต้องซื้อนะ มันใช้ได้แป็บเดียวมาก เปลืองตังค์ค่ะ
  • ปีสองปีที่ผ่านมา เห็นรุ่นที่มันเป็นเป้และมีที่รองนั่ง ของเกาหลี เราไปฮ่องกงแล้วเห็นคนใช้เยอะมาก อารมณ์ว่าเป็นเป้ แล้วมีที่นั่งด้วย hip seat baby carrier เราไปลองมา แต่ปัญหาของเราคือ การที่เราผ่าคลอด ไอ้ตรงที่รัดเอว มันจะกดช่วงท้องและโดนแผล และด้วยความที่เรามีปัญหาเรื่องปวดท้องเรื่อรัง เลยใช้แล้วเจ็บ แต่คนที่แข็งแรงปกติ เห็นใช้แล้วชอบกันนะ เดี๋ยวจะแปะรูปไว้ให้ด้วย ส่วนมากจะเป็นแบรนด์เกาหลี ราคาไม่สูง
  • ส่วนแบรนด์อื่น แล้วแต่ความชอบเลย ไปลองสะพายดูตามห้างก่อน ค่อยๆตัดสินใจค่ะ

ergo

Ergo Baby


hipseat

Hip Seat Baby Carrier

4. ขวดนม

  • ขวดนมนี่เป็นเรื่องที่แล้วแต่ความสะดวกของแม่ๆเลยค่ะ ก่อนคลอดก็ไปตุนซื้อ Avent มาเยอะมาก แต่ไทกินนมแม่ 99% จากเต้า เลยกว่าจะได้กินขวดก็ตอนสองขวบ เลยไม่ค่อยได้ใช้ขวด ก่อนเริ่มกินนมผงก็ใชประปรายบ้าง เอาใส่นมสต็อคบ้าง โดยส่วนตัวไม่ได้ชอบ Avent มากเพราะขวดอ้วนและใหญ่ ไม่เหมาะกับการให้เด็กหัดถือเอง มีเพื่อนให้ของ Dr Brown มา เพราะพิสูจน์ว่าป้องกันเรื่องโคลิก ก็โอเคนะ แต่ตอนที่ใช้ ไม่รู้ทำไมมันจะมีกลิ่นหืนๆตรงแท่งหลอดกับฝายาง อาจจะเป็นเพราะเราใส่นมแม่สต็อค ซึ่งกลิ่นจะหืนอยู่แล้ว ล้างยังไงก็ไม่หาย เลยเลิกใช้
  • พอดีไปไต้หวัน เจอเพื่อนที่เป็นแม่เหมือนกัน เค้าไปซื้อของเด็ก จำไม่ได้ว่าอยู่ถนนอะไร แต่ของเยอะมากกกกก ไม่ได้อยู่ในห้าง เป็นอารมณ์คล้ายๆถนนสำเพ็งแต่ไม่วุ่นวายขนาดนั้น มีหลายร้านติดๆกัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าไปจะไปถามชื่อถนนแล้วมาบอกนะ มีทุกอย่าง ราคาถูกมากๆๆๆ ของก็ดี เพื่อนแนะนำขวดนมยี่ห้อ chu chu baby ของญี่ปุ่น เดี๋ยวแปะรูปให้ เป็นขวดสีชา เพื่อนบอกว่าดีมากๆ คอนเฟิร์ม อะ เชื่อค่ะ ก็ชื้อมาครึ่งโหล เพื่อนบอกให้ซื้อจุกนมเผื่อเลย ซึ่งควรค่ามากค่ะ พอมาใช้ชอบจริงๆ ชอบมากพูดเลย มันพอดีกับมือเด็กเอเชีย และไม่มีปัญหาเรื่องฟองอากาศด้วย
  • นอกจากนี้ แบรนด์ทั่วไปที่หาซื้อได้ง่ายๆก็ Pigeon เราว่าก็ไม่แย่นะ เพียงแต่เลือกรุ่นขวดกับจุกที่ดีๆหน่อย อย่างแม่คนไหนที่ให้นมแม่จากเต้า และระหว่างวันให้นมสต็อคก็ควรใช้จุกเบอร๋เล็กสุดไปตลอด ไม่ต้องเปลี่ยน เพราะลูกจะได้ชินกับการดูดจากขวดให้เหมือนดูดจากเต้าที่สุด
  • น้ำยาล้างขวดนม เราว่าของ Pigeon ดีนะ ไม่แพงมาก

chuchu

5. แก้วหัดดื่ม เราไม่ได้ใช้แก้วที่เป็นจุกเพราะไทเริ่มดูดหลอดได้เร็ว เลยข้าม step นี้ไป บางแบรนด์จะขายเป็นเซตตามช่วงเวลา ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งเซตนะ ดูพัฒนาการของลูกเราว่า เริ่มทานน้ำได้แบบไหน ดีที่สุดคือฝีกให้ดูดหลอดค่ะ สักพักก็จะดื่มจากแก้วได้

  • เราเป็นคนบ้าซื้อแก้วมาก เพื่อนเลิฟด่าบ่อยมากว่า บ้า!!!!! ซื้อทำไมเยอะแยะ มีลูกอยู่คนเดียว ไปไหนก็ซื้อ แล้วโชคดีว่า มีพี่เลี้ยงช่วงหนึ่งฝึกไทดูดหลอดได้ตั้งแต่ 6 เดือน ไทเลยดูดหลอดได้เร็ว อิแม่ก็เลยบ้าซื้อแก้วใหญ่ แล้วก็ทำหายบ่อยมาก
  • แก้วหลอดดูด Avent ค่อนข้างดี ไม่รั่ว
  • Combi ก็ดี ชอบเหมือนกัน เมืองไทยขายแพงมากหง่ะ
  • Pigeon ที่เป็นทรงสูง ของญี่ปุ่นดีค่ะ ซื้อที่ Central ได้

avent

Avent


combi glass

Combi


tall

Pigeon Tall

6. เก้าอี้ทานข้าว

  • เราเคยอ่านมาว่า ควรฝึกลูกให้ทานข้าวให้เป็นที่ ไม่ควรเดินป้อน เพราะจะเสียนิสััย เราเลยให้ความสำคัญกับเก้าอี้มาก เดินดู หา อ่านอยู่นานมาก สุดท้ายมาถูกใจกับของ mamas and papas เดี๋ยวถ่ายรูปแปะนะ เป็นอันที่รัดกับตัวเก้าอี้ ขนย้ายสะดวก และด้วยความที่เราไปนู่นมานี่บ่อย เลยซื้อตัวที่มันขนย้ายสะดวก รุ่นนี้จะมาถาดและของเล่นแถมมาด้วย ไทชอบมากตอนเด็ก ใช้ได้ตั้งแต่ลูกนั่งได้จนถึง 3 ขวบเลย คุ้มมาก
  • ราคาไม่แพง ก็ของ IKEA เราก็ซื้อไว้ตัวหนึ่งที่บ้านฮ่องกง เพราะถูกและใช้ได้ยาวถึงโต ตัวที่เป็นเก้าอี้ขาวๆอ่ะค่ะ
  • เก้าอี้ทานข้าวแบบพกพา ที่พับได้ เอาไว้ไปทานข้าวนอกบ้าน จะมีสายรัดกันตก เราซื้อของ munchkins เดี๋ยวแปะรูปน้า ใช้ดีเหมือนกัน สะดวกมาก อันเล็กดี เห็นเพื่อนมีใช้ของแบรนด์อื่นอย่าง fisherprice จะใหญ่หน่อย แต่ถ้าไม่ได้ออกนอกบ้านบ่อยก็ไม่จะเป็นต้องซื้อนะ พอโตแล้วก็นั่งเก้าอี้เด็กของร้านอาหารได้แล้ว

chair

mamas and papas booster

วันนี้ พอแค่นี้ก่อนนะค่า ไทพึ่งตื่น เดี๋ยวมาเขียนต่อ ใครอยากรู้ของใช้เด็กอันไหนอีก ลองถามได้นะ ตอนนี้นึกออกแค่นี้ก่อน 🙂