Image
0

เด็กชายไทไปเที่ยวยุโรป Part 1

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brugge

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Antwerp Train Station

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brugge

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

On the train to Antwerp

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel City Centre

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel City Centre

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Brussel, Motel One Hotel

หูยย เริ่มยากเลย จริงๆต้องเริ่มก่อนว่าทำไมถึงตัดสินใจไปเที่ยว และอิแม่นั่งเล่นเฟซบุคอย่างดั๊นก็มาเห็นดีลตั๋วเครื่องบินราคาดี๊ดี นั่นคือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจไปเที่ยว คือจริงๆอยากไปเบลเยี่ยมมานานมาก แต่รู้สึกว่าการไปยุโรปต้องใช้เวลา ใช้เงินเยอะเลยยังเก็บไว้ก่อน จนมาเจอดีลนี้แหละค่า KLM ไปกลับราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 19,000 บาท net นะคะ กิสมากๆๆๆๆ จริงๆแบบนี้ถือเป็น Impluse shopping ที่ค่อนข้างแย่มากหง่ะ T_T เราจองตั๋วไว้ตั้งแต่เดือนเมษายน และเลือกเดินทางช่วงตุลาเพราะดูเรื่องเวลางานของสามีและน่าจะเป็นช่วงที่ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป เดี๋ยวจะมาบอกข้อดีข้อเสียของการจองอะไรล่วงหน้ายาวเกินปายยยยย

ค่ะ พอได้ตั๋ว อ้อ ลืมบอกอีกหนึ่งประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปคือ Ireland เลยเลือกขาไป ไปลงที่เบลเยี่ยม และกลับจาก ดับลิน ไอร์แลนด์
Belgium: บินออกจากกทมประมาณเที่ยงถึงที่ Brussel เกือบห้าทุ่ม เลือกนั่งแท็กซี่ไปโรงแรมค่ะ เพราะเหนื่อยโฮก โรงแรมโอเคเลยด้วย location ชื่อ Motel One ห้องสะอาดแต่เล็กไปหน่อย ทำเลดีมาก เดินถึงตัวเมืองเลย โชคดีของเรื่องเวลา วันที่ถึงก็ดึกแล้ว เลยหลับยาวถึงเช้า เลยไม่มีปัญหาเรื่อง jeglag จนถึงวันกลับเลย แต่ก็จะกลายเป็นคนสุขภาพดีคือนอนเร็ว ตื่นเช้ากันค่ะ นอนที่ Brussel สามคืน ก็เดินทั่วเมืองเลยค่ะ คือจำได้ว่าเดินเยอะมากๆ เวลานอนของไทก็นอนแค่ครั้งเดียวแล้ว ก็จะหลับบนรถเข็นไปช่วงบ่ายทุกวันไปค่ะ พ่อแม่ก็หาร้านกาแฟนั่งไปค่ะ Brussel เป็นเมืองที่สวย ด้วยตัวตึก ถนน การเดินทางก็มันจะเดินทางด้วย tram ที่สะดวกและไปถึงได้ทุกที่ สถานที่สำคัญและท่องเที่ยวต่างๆก็จะอยู่ใกล้ๆกันหมด เดินถึงกันได้ค่ะ
วันที่สามของการอยู่ Brussel เริ่มรู้สึกว่าเดินครบหมดละ เลยเลือกนั่งรถไฟไปเที่ยว one day trip ที่เมือง Ghent ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอไปถึงแล้ว ตะลึงในความสวยของสถาปัตยกรรมของเมืองนี้มาก เหมืองเมืองในเทพนิยาย สวยมากๆ เดินไปตรงไหนก็สวยไปหมดค่ะ แนะนำมากๆ ว่าควรไปอย่างยิ่งค่ะ ไปเที่ยวแบบ one day trip ก็น่าจะพอค่ะ
เราเดินทางต่อจาก Brussel ด้วยรถไฟไปเมือง Brugge เป็นเมืองเล็กๆที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยว เราพักกัน 1 คืน ที่โรงแรม hotel boterhuis เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ทำเลดีมาก เดินนิดเดียวก็ถึงตัวเมือง เมือง Brugge จะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ตึกจะไม่สูงมาก เรียงๆกันน่ารัก อารมณ์ชนบทหน่อยๆ แต่เดินเล่นสนุกค่ะ ไม่เหนื่อยมาก เดินได้รอบเมืองเลย
ออกจาก Brugge เราก็นั่งรถไฟไป Antwerp ตอนถึงก็งงๆเหมือนกัน เพราะเมืองนี้ดูไม่ค่อยเหมือนเมืองอืนที่เราไปมา จะดูเป็นตึกใหม่ office shopping street มากมาย ซึ่งเค้านับว่าเป็นเมืองแห่ง fashion ของ Belgium โดยส่วนตัวไม่ได้ชอบเมืองนี้มากค่ะ เพราะไม่ค่อยได้เห็นสถาปัตยกรรมเก่าๆเท่าไหร่ หลักๆจะเป็นเมืองแห่งการชอปปิ้งมากกว่า เราเลยเดินเล่นเอื่อยๆ แล้วกลับโรงแรมเร็ว เพื่อที่จะนอนเร็วและรีบตื่นเช้าเพื่อไปเลือกนั่งรถไฟรอบเช้าไป Amsterdam
ออกจาก Antwerp แต่เช้าเลยค่ะ แต่คนเยอะมาก บนรถไฟไม่มีที่นั่งเลย ยืนกันตลอดตั้งแต่ Antwerp จนถึง Amsterdam ดีว่านั่งไม่ถึง 2 ชั่วโมง ไทก็นั่งบนกระเป๋าไปค่ะ อ้อ จิบอกว่า การเดินทางแบบหฤโหดแบบข้าพเจ้า ควร travel light ให้มากที่สุดค่ะ อิชั้นโดนสามีบ่นสุดๆเรื่องกระเป๋าหลายใบ เพราะไหนจะมีกระเป๋า ไหนจะต้องมีรถเข็นอีก เพราะฉนั้นควรมีกระเป๋าให้น้อยที่สุด ใหญ่ได้ไม่เป็นไร คุณสามีบอกมา T_T
ถึง Amsterdam เกือบเที่ยง พอถึงก็กรี๊ดกับความสวยงามของเมืองมากค่ะ ไทแฮปปี้มาก เพราะนางได้นั่งรถไฟเยอะสมใจนางเลยค่ะ ขอมาต่อเรื่อง Amsterdam วันหลังนะก๊ะ ก่อนไปนอน ขอแอบบอก tips การพาเด็กไปเที่ยวนิสนุง แต่จริงๆก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่แล้ว เพราะเด็กอายุ 2-3 ขวบ ทานข้าวได้ทุกอย่าง นอนก็อย่างมากวันละ 1-2 ครั้งค่ะ
  • ถ้าบินไฟล์ทยาวๆ แล้วลูกหลับไม่ได้ คุณหมอแนะนำให้ทานยาแก้แพ้ก่อนบินค่ะ กันเรื่องแพ้อากาศและทำให้ลูกนอนได้ระดับหนึ่งค่ะ
  • ของที่จะเอาไปใช้บนเครื่อง ของเล่นลูก หนังสือ ถ้าลูกพอดู cartoon ได้บ้าง ก็อนุโลมให้ดูทีวีบนเครื่องที่เป็น cartoon ได้ค่ะ แต่เราค่อนข้างจำกัดเรื่องการดู cartoon เลยให้ดูไม่นาน ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง
  • ถ้าไปกันสามคนพ่อแม่ลูก โดยมากสายการบินก็ต้องจัดให้นั่งติดกันอยู่แล้ว แอบขอหมอน ผ้าห่มมาเยอะหน่อย เอาไว้รองหัวกับห่มลูก แต่ความเหนื่อยคือ พอลูกหลับก็ต้องคอยกันไม่ให้ลูกดิ้นตกเก้าอี้ค่ะ ดังนั้นภาระก็จะอยู่ที่พ่อแม่กับการนอนไม่สนิทค่า
  • สายการบินกับเรื่องอาหารบนเครื่อง เป็นเรื่องที่ต้องทำใจค่ะ โดยเฉพาะสายการบินยุโรป อาหารแบบว่ารับทานบ่ได้ รอบนี้ก็มัวแต่รีบออกจากบ้าน ลืมตุนอาหารใส่กล่องไว้มื้อหนึ่งหรือสองมื้อให้ไท ไว้ทานบนเครื่อง เพราะบางไฟล์ทเค้าเสริฟอาหารแค่รอบเดียว แต่บนเครื่องเป็นเวลาอาหารเย็นของเมืองไทย แล้วเราจะให้ลูกหม่ำอะไรละค่ะ เพราะฉนั้นทำข้าวใส่กล่องเผื่อไปเลยค่ะ เราไม่ทานได้ แต่ลูกเราจิไม่ไหวเนาะ อ้อ แล้วก็เตรียมขนม ผลไม้ที่ลูกชอบเอาไว้ไปทานบนเครื่องด้วยค่ะ
  • น้องคนไหนที่ฉี่เองเป็นแล้ว แนะนำให้พกกระปุกฉี่ไปค่ะ จะได้ไม่ต้องคอยลุก ไปคิวเข้าห้องน้ำ
  • ผ้าเปียก กับเสื้อผ้าสำรอง ห้ามลืม สำคัญมากกกกกก
  • ยาต่างๆ แก้ไข้ ลดน้ำมูก แก้แพ้ แก้ท้องเสีย ปรอทวัดไข้ cool gel ยาแก้อักเสบ เอาไปเผื่อเลยค่ะ เมืองนอกไม่ขายยาให้ถ้าเราไม่ไปหาหมอค่ะ
  • อย่าลืม นม ลูกนะค่ะ เพราะทริปนี้ สิ่งที่พลาดที่สุดคือลืมนมผงลูกทั้งกระปุกเลย อย่างว่าให้ลูกกินนมแม่ถึง 2 ขวบ พอมากินนมผง แล้วต้องเดินทางไกลๆก็ดันลืมซะงั้น เราไปวิ่งซื้อนมผงวัว ไทไม่ยอมกินเลย เพราะปกติทานนมแพะ ทริปนี้ไทเลยแทบจะไม่ได้ทานนม เลยเอาชีสให้ทานแทน กลับมาอ้วนปั้กเลยคับ

ไว้จะมาต่อทริป Amsterdam, London, Scotland and Ireland นะก๊ะ

Leave a comment