0

What to expect after the delivery (0-3 months)

ขอยืมประโยคจากชื่อหนังสือยอดฮิตสำหรับแม่ๆนะค่า ก่อนจะคิดและเขียนเรื่องของใช้สำหรับเบบี๋ตอน 2 เลยมานั่งคิดเองเออเองว่า จริงๆ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่คลอดไท เราทำอะไรบ้างในบทบาทของคำว่า “แม่” เลยคิดว่า ขอระลึกกลับไปตั้งแต่หลังคลอดว่า เจออะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่มือใหม่ หรืออาจจะมีคุณแม่ท่านไหนที่กำลังเจอปัญหาแบบที่เราเคยเจอมาก่อน ขอเล่าเป็นช่วงๆอายุเดือนของเด็กชายไทนะคะ

ตั้งแต่วันคลอด

IMG_0228IMG_0236IMG_0235IMG_0253

  • ความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นคือ จะ คลอด ธรรมชาติ ค่ะ ก็อุ้มท้องรอ รอ รอ จนถึง week ที่ 41 ก็ยังไม่มีวี่แววว่าปากมดลูกจะเปิด ไปเดินช็อปปิ้ง midnight sale ก็แล้ว เดินสวนก็แล้ว ว่ายน้ำก็แล้ว เด็กชายไทก็ไม่ยอมออกมาสักที สุดท้ายคุณหมอบอกให้รออีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้ายังไม่คลอดก็กำหนดว่าผ่าเลย เพราะกลัวรกเสื่อม และจาก ultrasound เด็กชายไทหัวใหญ่มาก คุณหมอกลัวอิชั้นจะเบ่งไม่ออก เพราะดูแล้วเป็นคนขี้กลัวมาก หมอแซวว่า จะไหวเร้อ แค่ตรวจปกติก็ร้องจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็ต้องผ่าคลอดค่ะ ก็หาฤกษ์กันไป วันที่ 13 ธันวาคม 2012 (ในรูปเซตวันที่ผิดค่ะ) เบบี๋ไทก็อุแว้ออกมา ขอเล่าประสบการณ์หลอน คือตอนที่ฉีดยาบล็อคหลัง หมอบล็อคหลังก็เริ่มฉีด ฉีดเสร็จก็ต้องมาเช็คว่ายังรู้สึกตรงนั้นตรงนี้ไม๊ เราก็บอกว่ารู้สึกค่ะ หมอก็งง เราก็งงและก็กลัว พอหมอสูติเข้ามาจะเริ่มผ่า และพอเริ่มกรีด เราก็ร้องกรี๊ด เพราะรู้สึกได้ถึงการลงมือกรีดท้อง หมอและพยาบาลตกใจมาก เลยรีบโปะยาสลบเลย แต่สัณชาตญาณของความเป็นแม่มันช่างแรงกล้า เพราะขนาดโดนยาสลบ ไม่น่าจะตื่นได้ ตอนที่สลบอยู่ มันเห็นเหมือนที่เค้าเล่าๆกันว่า เห็นเป็นอุโมงค์ดำๆ แล้วเหมือนเรากำลังเดินออกมา เห็นจุดแสงขาวๆอยู่ปลายทาง พร้อมกับได้ยินเสียงเด็กร้อง เราจำได้เลยว่า เราฝืนตัวเองให้ลืมตาขึ้นมา เห็นหน้าลูกแพพนึงประมาณ 5 วินาที เห็นกอฟอุ้มและยื่นลูกมาตรงข้างหน้าเรา แล้วเราก็หลับต่อ หลังจากนั้นตื่นมาในห้องพักฟื้น คำถามแรกที่ถามพยาบาลคือลูกแข็งแรงปลอดภัยไม๊คะ พอได้ยินว่าปลอดภัย ก็หลับต่อ จนตื่นและกำลังกลับเข้าห้องพัก
  • พอถึงห้อง อย่างแรกที่อยากทำ และเชื่อว่าเป็นเหมือนกันทุกคน ยกเว้นคุณแม่ที่โชคดีได้คลอดธรรมชาติก็จะได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกน้อยเลย สิ่งแรกที่ถามและอยากทำคือ จะเอาลูกอ่ะ ลูกอยู่ไหน เอามา เอามา กอฟบอกว่ากำลังให้คุณหมอเช็คร่างกายอยู่ รู้สึกว่า หลัังจากนั้นสักไม่เกิน 20 นาที พยาบาลก็เข็นลูกมา โอ้วววว ณ โมเม้นท์นั้น ตอนที่เราอุ้มลูกเรา เด็กที่อยู่ในท้องเรามา 9 เดือน เตะเราอย่างหนักหน่วง 5555 อยู่ในอ้อมแขนเรา เชื่อว่าทุกคนคิดเหมือนกันว่า มันอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ และนั่นแหละ คือ โมเม้นท์ที่ชัดเจนมากว่า เราเป็นแม่คนแล้วนะ
  • วันเดียวกัน คุณหมอเด็กที่รับตอนเราคลอด ก็มาบีบนมว่าน้ำนมไหลยัง เราโชคดีที่น้ำนมมาเลยตั้งแต่วันแรก ก็เอาไทมาดูดจ๊วบๆเลย

วันที่สอง-วันออกจากโรงพยาบาล

IMG_0355

  • คุณหมอมาปรึกษาว่าต้องการขลิบหรือไม่ ก็ลังเลแพพ แต่ก็ตัดสินใจว่าขลิบ เพื่อสุขอนามัยของลูกค่ะ ทำตอนนี้ดีกว่าทำตอนโต พยาบาลบอกว่าไทร้องเสียงดังมาก หลังขลิบ สงสารมากอ่ะ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เหนื่อยมากๆกับการที่ต้องให้นมทุก 3 ชั่วโมงตลอดทั้งวันและคืน เรานอนโรงพยาบาล 3 คืน ตามแพ็คเก็จ คุณหมอก็ปล่อยกลับ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร วันกลับไปเปลียนชุดที่ห้อง nursery พยาบาลเดินมาเกือบทุกคนว่า บ๊ายบายเด็กยักษ์ เอิ่มมมม ควรดีใจมะคะ เพราะช่วงวันที่ไทเกิด ไทมีน้ำหนักตัวหนักชนะเลิศค่ะ ตัวใหญ่สุด เวลาไปดูตรงห้องกระจกแล้วเอาเบบี๋มาเรียงกัน ไทตัวใหญ่มว้ากกกกก เด็กยักษ์จริงๆอ่ะ
  • อ้อ ควรจะเตรียม carseat สำหรับรับลูกกลับบ้านด้วยค่ะ ปลอดภัยก่อนนะคะ ถ้าไม่มีก็อุ้มลูกนั่งข้างหลังค่ะIMG_0300

0-3 เดือนแรก

IMG_0439

IMG_0691

  • พอกลับบ้าน ก็เริ่มภารกิจของแม่นมวัว ด้วยความที่ไทเป็นเด็กผู้ชายและเกิดมาตัวใหญ่ ไทเลยกินเยอะและบ่อยมาก คือได้นอนตอนกลางคืนไม่เคยเกิน 2 ชั่วโมง ไม่ตื่นมากินนม ก็อึ แล้วก็ปั๊มนม สภาพร่างสองพ่อแม่เป็นซอมบี้มากๆ
  • ปัญหาที่เครียดที่สุดช่วงแรกคือ หัวนมแตกค่ะ เพราะไทดูดแรงและการดูดไม่ถูกต้อง อยากจะบอกว่า ไม่เคยเจ็บอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต แตกเลือดออก แต่ก็ยังฝืนให้ต่อไป ต้องป้ายยาแก้ร้อนในที่หัวนม คือลูกดูดไป ร้องไห้ไปเพราะเจ็บมาก ตอนนั้นกอฟสงสารเรามาก บอกว่า หยุดให้ดีไม๊แล้วให้นมสต็อคหรือนมผง เราแบบคิดแล้ว ไม่อะ สู้ต่อ เพราะช่วงเดือนแรก ถ้าเริ่มให้ขวดก็จะติดขวด และกลับมาดูดเต้ายาก สุดท้ายเราก็อดทน จนปรับ position ของปากไทเวลาดูด และโชคดีที่ไปเจอพยาบาลที่สมิติเวช สุขุมวิท ช่วยสอนท่าให้นม จนทำได้ในที่สุด หลังจากผ่านไปเกือบสองเดือน พูดเลยว่าเครียดมากๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนั้นไล่โทรหาเพื่อนๆพี่ๆที่มีลูกกระจาย แต่ไม่มีใครที่เยินเท่าเรา และต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้คำปรึกษาด้วยนะค่า
  • ต่อมาด้วยปัญหาที่สอง เต้านมคัดอักเสบ เป็นก้อน เพราะขี้เกียจปั๊มทุกสามชั่วโมง เกเรไง แล้วนมก็เยอะและข้นมาก จนแข็งเป็นก้อน ไข้ขึ้น ตัวสั่น รีบไปหาหมอที่ BNH ก็โดนค่ะ โดนบีบและรีดนมตรงที่เป็นก้อน ตายตรงนั้นเลยค่ะ หมอต้องให้พยาบาลสองคนมาตรึงแขนไว้ อิชั้นกรี๊ด ร้องไห้ลั่นโรงพยาบาล อันนี้เจ็บที่สุดในชีวิตอีกครั้ง โชคดีว่ายังไม่เป็นหนอง ไม่ต้องเอาเข็มเจาะเข้าไป กินยาแก้อักเสบ และก็กลับมาให้นมต่อไปค่ะ เพราะฉนั้น ต้องมีวินัยในการปั๊มนมค่ะ และถ้ายังเป็นก้อนไม่มาก การให้ลูกดูดจะดีที่สุดและหายเร็วที่สุด โดยไม่เจ็บตัว และอย่าทานอะไรมันๆ เพราะจะทำให้น้ำนมข้นและอุดตันได้ง่าย
  • ทั้งนี้ สำหรับคุณแม่บางท่านที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อย ไม่พอ เท่าที่เราเคยอ่าน น้ำนมสามารถกระตุ้นได้ด้วยการให้ลูกดูดกระตุ้น แต่ก็มีเพื่อนๆบางคนที่น้ำนมน้อยจริงๆ สำหรับเรา ยอมรับว่าตอบไม่ได้ว่าต้องทำยังไง แต่เราแนะนำว่า ปรึกษาคุณหมอเด็ก ที่โรงพยาบาลที่เน้นการให้นมแม่เท่านั้น จะดีที่สุด คุณหมอจะดูน้ำหนักลูก และให้คำแนะนำได้ ย้ำนะคะ ควรไปปรึกษาคุณแม่ที่โรงพยาบาลที่เน้นการให้นมแม่เท่านั้นค่ะ และที่สำคัญ ห้ามเครียดว่าทำไมไม่มีนม ห้ามเปรียบเทียบกับแม่คนอื่น เราทุกคนย่อมอยากจะทำดีที่สุดสำหรับลูกเรา อย่าไปเครียด ยิ่งเครียด น้ำนมยิ่งหดค่ะ ดื่มน้ำเปล่า ไม่เย็น เยอะๆ หัวปลีช่วยได้จริงๆ แต่ถ้าอดทนทานแบบจืดได้ยิ่งดี การที่เราไม่สามารถให้นมลูกได้ โดยที่เราพยายามแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ อย่าโทษตัวเองเด็ดขาด
  • การอยู่เดือน อาหารการกิน แม่เราเคร่งมากกกกก หนึ่งเดือนที่เรากินอาหารโดยไม่ใส่เกลือสักอย่าง แล้วเมนูเนี่ย ทุกวันนี้เลยเลิกกินเลยค่ะ เมนูคือ กระเพาะปลาสด หัวปลีกระดูกหมู ตับหมู ปลานึ่ง ไก่ดำ (จริงๆไม่ควรใส่สมุนไพรนะคะ เพราะสมุนไพรบางตัวก็ไม่ได้ดีกับการอยู่เดือนทุกอย่าง) กินวนมันอยู่อย่างนี้หนึ่งเดือน โดยไม่มีเกลือแม้แต่หยดเดียว อดทนค่ะ เพราะคนจีนเชื่อว่า การอยู่เดือนเปรียบเสมือนการเกิดใหม่ของผู้หญิง ก็ต้องทานอะไรที่ดีที่สุด เพื่อบำรุงเลือดที่เราเสียไปตอนคลอด และเพื่อตอนเราอายุมากขึ้น จะไม่ป่วยง่าย หลังออกเดือน อิชั้นทานอย่างบ้าคลั่งมาก แต่ก็ต้องระวัง เพราะจะมีผลกับน้ำนมค่ะ
  • อาบน้ำ สระผมได้หรือไม่ คือปกติเป็นคนต้องสระผมทุกวัน เพราะฉนั้นพูดเลยว่า ทำไม่ได้ค่ะ แต่อาบและสระน้ำอุ่นเท่านั้น และรีบเช็ดให้แห้ง เป่าผมให้แห้ง ถ้าคุณแม่ท่านใดทำได้ อิชั้นนับถือมากค่ะ
  • อยู่ไฟ อันนี่แล้วแต่ความชอบและความเชื่อเลย เราเองไม่ประทับใจกับการอยู่ไฟ เพราะคนที่มาทำ มือหยาบ นวดแรง ไม่ชอบเลย เลยเลิกตั้งแต่วันที่สอง เสียตังค์ฟรี เลยถามคุณหมอสูติว่า การอยู่ไฟนี่ตกลงจำเป็นหรือไม่ คุณหมอบอก จริงๆแล้วไม่จำเป็น บางครั้งมีผลเสียกับร่างกายด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นความเชื่อของคนไทยมาช้านาน ถ้าทำถูกวิธี ไม่รุนแรงก็ไม่มีปัญหาอะไร เพื่อนหลายคนชอบนะ เพราะรู้สึกเหมือนผ่อนคลาย มีการนวด สครับไรงี้ เราโชคไม่ดีเจอหมออยู่ไฟไม่ดีหง่ะ
  • เชื่อว่า คุณแม่ทุกท่านน่าจะรู้ตรงกันว่า 0-6 เดือนให้ทานแต่นมแม่หรือนมเท่านั้น ไม่ควรเสริมอาหารใดๆทั้งสิ้น ใครจะมาพูด จะมาว่า อย่าไปเอามาเครียดค่ะ เราเองก็คนหนึ่งและรวมอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเดียวจน 6 เดือน แล้วลูกก็แข็งแรง ปกติดี น้ำก็ไม่ต้องทานนะคะ แต่ไม่แน่ใจจริงๆว่า ถ้าทานนมผง อาจจะต้องมีให้ทานน้ำตามหรือเปล่า สำหรับนมแม่ ไม่ต้องให้ทานน้ำค่ะ
  • ช่วงสามเดือนแรก ถือว่าเป็นช่วงปรับตัวทั้งสำหรับพ่อแม่ และลูก ลูกเราพึ่งเกิดมา เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า ลูกก็คงงงๆเหมือนกับที่พ่อแม่งงนี่แหละ แต่ละบ้านก็เจอปัญหาแตกต่างกันไป แต่อย่าท้อ อย่าเครียด แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ อ่านหนังสือ google ถามเพื่อนๆพี่ๆที่มีประสบการณ์ค่ะ อย่างเราจะชอบมากถ้ามีใครมาถาม ชอบตอบมากกก website ที่เราอ่านประจำและสมัครให้ส่ง email หรือ dowload app ได้คือ babycentre.co.uk จะแบ่งเป็นช่วงอายุของเด็กให้เราอ่าน
  • ลูกนอนเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน เราต้องหลับทันทีค่ะ เรียกว่าลักหลับ เราเองต้องพยายามพักผ่อนให้ได้มากที่สุด พอพ้น 3 เดือน ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้นมาก ท่องง่ายๆว่า ลูกหลับเราหลับ เพราะอย่าลืมว่า ในขณะที่ทุกคนหลับ เราต้องตื่นมาปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงค่ะ

IMG_0808

ไว้มาเขียนต่อสำหรับเดือนถัดไปนะค่า วันนี้เขียนสองโพสต์แล้ว เดี๋ยวเบื่อกันก่อนหง่ะ xx