0

เด็กชายไทตะลุยแดนมังกร และเยือนแผ่นดินแม่ — ไต้หวัน จีน ฮ่องกง PART I

ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มานั่งหาเรื่องไปเที่ยว แหะๆ แต่ก็ไม่อยากไปเที่ยวอย่างเดียว เลยนึกขึ้นได้ว่ามีงานแฟร์ที่กวางเจาช่วงเมษา เลยคุยกับกอฟว่า ที่เราอยากไปมานานแล้ว ไปกันช่วงนี้เลยละกันนะ แต่ไหนๆก็ต้องไปทางฮ่องกง งั้นเราแว็บไปเที่ยวไต้หวันกันดีมะ หาเรื่องมาก หิหิ สามีโอเค ภรรยาก็จัดสิ เลยจัดแจงเตรียมทริบ งานหลักเก๊าเลย

จากที่เรามีบ้านที่ฮ่องกง ก็เลยมานั่งเปรียบเทียบราคาตั๋วระหว่างบินจากกทมไปไต้หวัน หรือบินจากฮ่องกงถูกกว่า โชคดี evaair มีโปร ตั๋วไปกลับฮ่องกงไทเป สามคนพ่อแม่ลูกแค่หมื่นกว่าบาท ถ้าบินตรง ตกคนละหมื่นกว่าบาท เลยยอมเหนื่อยบินไปฮ่องกง ไปนอนคืนนึง แล้วตื่นไปขึ้นเครื่องอีกรอบ เพื่อความประหยัดนะค่า โอวววว ลืมบอก ถ้าไปฮ่องกงและไปหลายคน เรามีเบอร์แท็กซี่ที่ไปส่งสนามบินแบบคิดเหมาเที่ยวเดียว 200 hkd ถ้าใครสนใจ ส่งมาถามนะ เดี๋ยวเอาเบอร์ให้ พูดอังกฤษได้ แค่บอกว่าให้ไปรับที่โรงแรมอะไร

เราแพลนว่าคราวนี้จะไปเที่ยว Tainan ตอนใต้ของไต้หวัน เพราะไปไทเปหลายรอบละ ตั้งแต่เด็กจนโต ยังไม่เคยไปทางใต้ ได้ยินว่าอาหารอร่อย ด้วยความที่แม่เราเป็นคนไต้หวัน เด็กๆเลยไปบ่อย แต่ตอนนี้ไม่มีบ้านและญาติอยู่แล้ว เราเลยชอบกินอาหารไต้หวันมาก ทริปนี้เลยเหมือนไปเพื่อกิน พอถึงไทเป ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงไป tainan เลย นั่งแค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่ค่ารถแพงอยู๋ คนละพันกว่าแหนะ แต่ก็นะ เพราะเร็วมาก เมืองไทยกว่าจะได้นั่ง น่าจะรุ่นเหลนล่ะค่ะ และแล้วก็พลาดอีก เพราะไปถึงฝนตกหนักค่ะ ตกทั้งวัน ไม่เข้าใจเลย พูดกับกอฟทุกทีว่า ทำไมเป๊าไปถึงที่ไหน ที่นั่นต้องฝนตก!!!! เลยอดเดินชมเมืองวันแรก แต่โชคดีโรงแรมอยู่ติดกับห้างที่ดีที่สุด mitsukoshi แล้วเปรมมาก เพราะห้างแซบมาก จะบอกว่าไต้หวันเป็นสวรรค์ของพวกเสื้อผ้า รองเท้ากีฬา ราคาดี ราคาโดนมาก และมีให้เลือกเยอะมากด้วย อาหารการกิน ค่าครองชีพที่ไต้หวันค่อนข้างถูก เพราะฉนั้นมาเที่ยวไต้หวัน ถือว่าใช้เงินค่อนข้างน้อย แต่คนไทยไม่ค่อยนิยม อาจจะเพราะไม้ได้คิดว่ามีที่ช็อปปิ้งมาก แต่หารู้ไม่ว่า พวกแบรนด์ ราคาไม่ได้แพงไปกว่าฮ่องกง บางครั้งถูกกว่าด้วย เพราะได้ tax refund 5% และคนไต้หวันก็นิสัยดี น่ารัก ชอบช่วยเหลือมาก แนะนำจริงๆนะ นอกจากฮ่องกง ญี่ปุ่น ก็มีไต้หวันนะที่น่าไป บินไม่นานด้วย ใครสนใจส่งมาถามนะ เรื่องโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป ที่ไหนเหมาะกับเด็ก อยากตอบมากกกกก

Tainan เอาจริงๆ ไม่ได้มีที่เที่ยวเยอะเท่าไหร่ มีห้างเก่าดั้งเดิมที่น่าไป แปะลิ้งค์ให้

http://thetaiwanphotographer.com/tainans-old-lin-department-store-%E6%9E%97%E7%99%BE%E8%B2%A8/

นอกจากนั้นก็เป็นพวก street foods แต่เพราะฝนตกเราเลยไม่ได้ไปอ่ะ ลองถามที่โรงแรมดูได้ เราพักที่ cozzi hotel http://www.hotelcozzi.com/en/store/index/xm ดีนะ เป็น family hotel มากๆ ทีแต่ครอบครัวเด็กเล็กเต็มไปหมด มี play area กว้างๆ มีบ่อทราย แนะนำมากๆ ราคาสูงหน่อย แต่ห้องใหญ่เลย สะอาด อาหารเช้าโอเค อย่างที่บอก ข้างๆติดกันเลยเป็นห้าง mitsukoshi เลิฟมาก มีของกิน ของใช้ครบ แต่สำหรับแม่ๆและเบบี๋หน่อย ยังไงก็ควรเตรียมพวกของใช้จำเป็นไปให้ครบ จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาซื้อ เพราะคนไต้หวันจะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ พูดแต่จีนกลางกับภาษาไต้หวัน เราไปนอนแค่หนึ่งคืน ก็นั่งรถไฟกลับไทเป

กลับถึงไทเปค่ำๆ เราพักที่โรงแรมนี้ตลอด พอดีครั้งแรกที่ไป พ่อรู้จักกับเจ้าของเลยได้ราคาดี ครั้งแรกที่มาพัก ตอนนั้นท้องไทประมาณ 5 เดือน เดินแหลก ขึ้นเขาลงห้วยสุดๆ โรงแรมชื่อ inhouse อยู่ตรง ซีเหมินติง เป็นอารมณ์สยามแสควร์เมืองไทย เหมาะสำหรับคนที่พึ่งไปไต้หวันครั้งแรก เพราะมีทุกอย่างของกิน ของใช้ ช็อปปิ้ง มีอาหารเช้าให้ด้วย http://inhousehotel.com/en/home.php ราคาก็ไม่แพงนะ ประมาณสามถึงสี่พันบาท เรทเงินไต้หวันจะใกล้เคียงกับเงินบาท สูงกว่าแค่ 0.1 กว่าๆเอง เลยไม่ต้องคิดเลขเยอะ เวลาซื้อของ เหมาๆเป็นเงินบาทไป หิหิ เราพักที่ไทเปสามคืน เพราะต้องกลับไปงานแฟร์ที่กวางเจาอีก คราวนี้เลยชิลๆ ไม่ได้แพลนว่าจะไปไหนเยอะ ที่เคยไปก็ไปมาแล้ว แต่ก็ด้วยความที่ขี้เกียจไปไหนไกลๆ เลยไปที่ใกล้ ที่แนะนำมี jiufen old street เป็นตลาดเมืองเก่า ถ้าไปกับทัวร์ก็จะพาไปแน่นอน เรานั่งรถไฟไปประมาณชมนิดๆ แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีกนิดเดียว จะเป็นตลาดอยู่บนเขา ถ้าเดินไปสุด จะเห็นวิวสวยดี ส่วนมากจะเน้นขายของกิน อาหารไต้หวันจะเน้น street foods แต่ดูสะอาดกว่าเมืองไทยเยอะนะ พวกอาหารจานเล็กๆ เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า ผักลวก บะหมี่หมูสับชามเล็กๆ (ตั้นตั้นเมี่ยน) ขนม เดินไปเกือบสุด จะมีร้านชา แนะนำให้ไปนั่งพักก่อนกลับ เป็นร้านชาเก่าแก่ ร้านสวยดี มีปลาด้วย และข้างนอกมีวิวสวย แต่ถ้าจะเข้าไปนั่ง ต้องสั่งชาเค้านะ แต่ชาดี หอม อร่อย แพงหน่อย แต่คุ้มค่ะ ครั้งแรกที่ไปตอนท้อง5 เดือน เราเดินทั่วหมู่บ้านเลย เหนื่อยมาก แต่คราวนี้ ยิ่งมีลูก ยิ่งไม่ไหว เลยถึงแค่ร้านชา ก็เดินเกลับ อ้อ ก่อนถึงร้านชา จะมีตรงหัวมุม ร้านแบบไม่ค่อยมีป้าย ขายบัวลอยเผือก มัน อร่อยมาก คนจะเยอะๆหน่อย ต้องกินค่ะ มันดีมากกกกกก มีแบบเย็นกับร้อน คนไทยก็ต้องเย็นค่ะ

นั่งรถไฟกลับมาถึงบ่ายๆ ไม่เย็นมาก ส่วนมากเราก็เดินอยู่แถวโรงแรม แต่ที่ไต้หวันจะดังเรื่อง night market หลายๆที่ เดี๋ยวแปะลิ้งค์ให้ว่ามีที่ไหนบ้าง ส่วนตัวเราไม่ได้ชอบทุกอัน และยิ่งมีลูกเล็ก ก็ลำบากหน่อย เพราะถนนจะแคบและคนเยอะ แต่เน้นเรื่องของกินพื้นเมืองนะ

http://www.englishintaiwan.com/shopping-in-taiwan/taipei-night-markets

เราชอบ shida กับ raohe มากที่สุด เพราะนอกจากของกิน ยังมีของอย่างอื่นให้ดู ไม่ใหญ่มาก เดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่คนจะรู้จัก shilin มากสุด เพราะใหญ่มากและมีมานาน แต่การไปเที่ยวไทเป ก็ต้องไม่พลาดการไป night market นะ

อีกที่ที่เราชอบไปเดิน เพราะจะเป็นพวกร้านเล็กๆ เหมือน daikanyama ที่ญี่ปุ่น อาจจะไม่เท่า แต่ก็น่ารักดี เพราะเราไม่ได้ชอบการเดินห้างตลอดเวลา ถนนนี่จะอยู่หลังห้าง Shin-Kong Mitsukoshi Department Store ถนน Da an นั่งใต้ดินไป Da an station ถ้าจำไม่ผิด ลองถามที่ station ดูว่าจะไป da an road ต้องไปสถานีไหน ข้างหลังห้างกับตรงข้ามก็จะมีพวกร้านเล็กๆเยอะแยะ ส่วนห้างก็น่าเดิน ควรไปค่ะ นอกจากตรงตึก Taipei 101 ตรงนั้นก็จะมีห้างหลายห้าง แต่เราไม่ค่อยไป เพราะมันต้องนั่งรถไปไกล

อีกร้านอาหารที่ original และควรไปกิน คือ din tai fung http://www.dintaifung.com.tw/en/ มีอยู่ในห้างด้วย แต่เค้าไม่รับจองนะ ต้องไปรอคิวหน้าร้านอย่างเดียว ที่ควรไปเพราะจะรู้่ว่าอร่อยกว่าที่เมืองไทยเยอะมาก เพราะต้นกำเนิดอยู่ที่ไต้หวันค่ะ

ใครที่ทานเนื้อวัว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวไต้หวันก็แซบ แต่น้ำซุปจะเบาๆนะ

ร้าน hotpot นี่ควรค่ามาก แปะรูปนามบัตรสีแดงๆไว้นะค่า ต้องโทรจองล่วงหน้าหน่อยน้า

อีกอย่างที่ควรลองเรียกว่า เทมปุระ แต่ไม่ใช่เทมปุระทอดๆนะ เป็นแก๊งส์ลูกชิ้นหลายๆอย่าง เมืองไทยไม่มีแน่นอน

https://www.nerdwallet.com/blog/travel/2012/locals-guide-10-musttry-taiwanese-street-foods/

อ้อ แฟนๆชาไข่มุก อย่าลืมหารับทานนะคะ ต้นกำเนิดก็มาจากไต้หวันเช่นกันค่ะ ร้านที่เราชอบ และต้องสั่งไข่มุกเม็ดเล็กนะ ชื่อร้านจะมีเลข 50 อยู่

รูปอยู่ด้านล่างทั้งหมดนะค่า วันนี้ขอจบที่ไต้หวันก่อนค่า จะมาต่อ part 2 เรื่องตะลุยแดนมังกร 🙂


                  

0

เด็กชายไท ชอบไปเที่ยวทะเล

11354729_10155701054325052_1590489327_n

หายไปนานมากๆๆๆๆหง่ะ ยุ่งวุ่นวายกับการเริ่มทำงานเล็กๆน้อยๆ เพราะรู้สึกว่า เป็นแม่เต็มตัวมานานละ อยากหาอะไรทำบ้าง และก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย แมักระทั่งงานที่เลือกทำ คือการทำงานที่บ้าน เพราะระหว่างทำงาน ก็จะมีลิงไทมาคอยกวน จุ๊กจิ๊กตลอดเวลา กว่าจะได้ทำงานจริงๆคือตอนคุณชายหลับ ส่วนกลางวัน นอนครั้งละหนึ่งชั่วโมง แค่กินน้ำ กินหนม เล่นเฟซบุค กำลังจะนั่งทำงาน ไทก็ตื่นอีก บ่นเยอะมาก แหะๆ

จริงๆเคยเขียนเรื่องพาลูกไปเที่ยวทะแลแล้ว ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนการไปเที่ยวทะเลในประเทศไทยยัง เพราะเราเชื่อว่า การไปเที่ยวในประเทศน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆในการตัดสินใจของการพาลูกไปเที่ยว ตั้งแต่เด็กๆ ส่วนมากจะเห็นหลายๆครอบครัว เริ่มพาไปเที่ยวที่หัวหินก่อน เพราะขับรถสะดวก ถนนดี ตัวเลือกโรงแรมเยอะ ถึงแม้โรงแรมมันจะแพงๆๆๆๆๆมาก ราคาโรงแรมนี้ไปนอนฮ่องกงได้ละ แต่ก็เพราะหัวหินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลอันดับต้นๆที่คนไทยนิยมไป พี่แกเลยขายแพงได้ไง วันนี้เราจะมาเรื่องการเตรียมตัว และโรงแรมที่เราเคยไปพักและพอจะแนะนำได้นะคะ

การเตรียมตัว จริงๆไม่ต่างอะไรกับการไปต่างประเทศ ที่ต้องเตรียมเพิ่มก็พวกอุปกรณ์กันแดด ของเล่นทราย ถ้าลูกโตพอจะเล่นทรายได้นะ เพราะการเล่นทรายเนี่ย ไทเพลินมาก เป็นการเล่นที่สามารถเล่นคนเดียวได้เกินครึ่งขั่วโมง แม่ปลื้มค่ะ ยาทากันยุง เพราะชายหาดจะชอบมีแมลงหวี่ที่กัดได้นะ

– ชุดว่ายน้ำ เสื้อพยายามให้ใส่แขนยาว แดดสมัยนี้มันร้ายกาจ เราควรป้องกันให้ลูกตั้งแต่เด็กๆค่ะ กางเกงด้วย สำหรับเสื้อ เราชอบซื้อของ quicksilver ราคาไม่แพงมาก กางเกงก็ h&m ก็มีนะ ถูกมาก คุ้มด้วย ไทใส่มาสองปีละ หมวกแบบที่มีหางปิดตรงคอ เนื้อผ้าจะเหมือนชุดว่ายน้ำของ mothercare

– ครีมกันแดด อันนี้แล้วแต่ชอบเลย เราชอบของ eucerin kids มันดูปกป้องแดดดี พยายามซื้อที่มี ++++ มีบวก 4 อันยิ่งดี เพราะจะป้องกันรังสีได้เยอะอย่างกว่า

โรงแรมที่แนะนำในหัวหิน และเหมาะกับครอบครัวนะคะ

– ชอบมากที่สุด Intercontinental บริการดี ห้องดี อาหารเช้าเริด kids friendly สระว่ายน้ำไม่แซบมาก แต่หาดโอเค

– Hyatt อันนี้ก็โอเค สระว่ายน้ำมีสไลเดอร์ให้เด็กเล่น มีพวก kids room เราว่าเหมาะกับครอบครัวเด็กโตหน่อยมาก เอาลูกไปฝากได้ หิหิ

– v villas เอาจริงๆ ไม่ชอบเท่าไหร่ แพง ดูไฮโซจริง เน้นขายความเป็น butler ส่วนตัว แต่ butler ที่เราเจอไม่โอเคเลย ไม่ค่อย service mind และไม่ได้มี facilities อะไรที่เหมาะกับเด็ก อาจจะไม่เหมาะกับเด็ก อาหารเช้าก็เฉยๆ

– cape nidhra ห้องดี ราคาสูง ส่วนมากมีสระในห้อง ไม่ใหญ่มาก วิวห้องไม่ดี จะไม่เห็นทะเลเลย เห็นแต่ตึกข้างๆ ซึ่งเป็นไซต์ก่อสร้าง บริการพอประมาณ ไม่ว้าวมาก อาหารเช้าโอเค ไม่เหมาะกับครอบครัวและเด็กเล็ก เพราะเหมือน v villas ไม่ได้มี facilities สำหรับเด็กเท่าไหร่ แต่ชายหาดอยู่ทนทำเลที่ดี สะอาด ทรายขาว เพราะชายหาดหัวหิน บางที่จะดูไม่สวย หินเยอะ หาดสกปรก โดยเฉพาะถ้าเลยไปทางเขาตะเกียบ

– Evason อย่าไปเด็ดขาด แย่มาก เคยไปเกือบสิบปีที่แล้ว ก็พอดูได้ พึ่งไปมา มันแย่มาก หาดไม่มีค่ะ ทุกอย่างดูเก่า แต่ดีอย่างเดียวคือมี kids area สระสำหรับเด็ก มีบ่อทรายเล็กๆ นอกนั้นบายค่ะ ไม่ไปอีก ถึงว่าทำไมราคาห้องมันถูก อาหารเช้าก็แย่ค่ะ

ค่ะ เรื่องโรงแรมก็ประมาณนี้ คุณแม่ท่านอื่นๆ ถ้ามีประสบการณ์เจอโรงแรมดีๆก็มาแชร์กันนะ

มาต่อที่ภูเก็ต เราพาไทไปมาสามรอบละ ก่อนมีไท ไม่ค่อยได้ไป เพราะส่วนตัวไม่ชอบเมืองทะเลที่เป็นเมืองนักท่องเที่ยวมาก ชอบแบบเกาะๆไกลๆ อย่างหลีเป๊ะนี่เลิฟมาก

ครั้งแรกที่ไปภูเก็ต ไปกับพ่อแม่เรา เราเป็นคนเลือก เลยลองหาข้อมูล แล้วลองพักที่ jw marriot resort and spa เพราะต้องอยู่ค่อนข้างใกล้สนามบิน ไปทำงานค่ะ ห้องโอเค บริการโอเค อาหารเช้าโอเค แต่ด้วยความที่เป็น chain hotels ทุกอย่างจึงค่อนข้างเป็น standard ไม่ได้มีอะไรแย่หรือดีเกินไป ค่อนข้างชอบ สระว่ายน้ำเด็กดี มีสไลเดอร์เหมือนกัน ถือว่าโอเคเลย แต่หาดไม่ค่อยดีนะ คลื่นสูงด้วยช่วงที่เราไป

ครั้งที่สอง ไปทำงานกับพ่อแม่อีกแล้ว พ่อเราจอง pullman arcadia ชอบมากนะ ห้องดี โรงแรมอยู่บนเนินเขา เลยต้องเดินลงมาเล่นทะเลตรงหาดในทอน ซึ่งมันดีมาก หาดสวยมากๆๆๆๆๆ น้ำใสกิ๊ก เห็นปลาด้วย ตอนที่ไปรัฐบาลพึ่งสั่งให้เก็บพวกเก้าอี้กับร่ม ชายหาดเลยดูสวย สะอาดตามาก เลิฟนายกตู่ค่ะ เราชอบที่สุด ตั้งแต่แคยไปภูเก็ต เพราะชายหาดสวยมาก ข้อเสียอย่างเดียว คืออาหารเช้าไม่ดีมากเท่าไหร่ และนักท่องเที่ยวจีนเยอะมากค่ะ แบบเสียงดังหง่ะ ฝรั่งงงทุกคน โดยสรุป แนะนำโรงแรมนี้มากๆ มีโซนเด็กด้วย

ครั้งล่าสุด พอดีได้ดีลราคาดีจากบัตรเครดิต และเคยเห็นรูปว่าสวย เลยอยากลองไปดู point yamu by como พูดเลยว่า ปกติเป็นคนไม่บ้าถ่ายรูปโรงแรม ห้อง เหิ้งอะไร แต่ที่นี่คือชอบมาก ตั้งแต่ reception พนักงานบริการดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกคนน่ารัก professional มาก พึ่งรู้ว่าเป็นเจ้าของเดียวกับ club21 ห้องงามมาก ที่โรงแรม upgrade ให้แบบมีสระในห้อง ปลื้มค่ะ ห้องใหญ่ ห้องน้ำเริด แต่มีข้อเสียคือไม่มีชายหาดเลย แต่ก็ดีค่ะ ตรงที่โรงแรมมี shuttle เรือหางยาวไปเกาะรังใหญ่ ซึ่งดูจากรูปมันสวยนะ นั่งไปแค่ 15 นาที แต่ๆๆๆๆๆๆ เราเศร้าเพราะไปช่วงฝนตก และดันตกทุกวัน เลยไม่ได้ไปเกาะ ร้องไห้หนักมาก จริงๆ วิวสวยมาก เพราะโรงแรมอยู่บนเขา มองเห็นทะเล ภูเขาครบ ชอบตรงที่ไม่ไกลจากสนามบิน และตัวเมือง อาหารเช้าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หง่ะ สรุปว่ายน้ำอยู่แต่ในห้อง แต่ก็ดีเพราะสระในห้องค่อนข้างใหญ่ ไทชอบมาก กลับมาเป็นหวัดเลย เพราะโดดน้ำไม่หยุด อ้อ ชอบที่สุดคือ kids room ดีมากๆ มีของเล่นเยอะมากๆ ห้องใหญ่มากๆ

การเดินทางไปภูเก็ต อย่างเดียว คือเครื่องบินค่ะ แนะนำว่าถ้าเป็นคนชอบกิน ควรเช่ารถ และไปทานในเมือง มีร้านอร่อยเยอะมาก ที่ไปทานมา มี ร้านวันจันทร์ อาหารใต้ ร้านข้าวต้มโกเบนซ์ อาหารซีฟู้ดร้านฮ่องกง ซีฟู้ด ร้านที่มีเพื่อนแนะนำแต่ไปไม่ทัน เพราะไปแค่สามวันสองคืน ร้านน้ำเต้าหู้สามกอง อีกร้านจำไม่ได้และ

เดือนเมษามีไปดูงานแฟร์ที่กวางเจากับไปเที่ยวไต้หวัน ไว้จะมาเขียนต่อนะก๊ะ

0

Recommended kids’ shopping places in Hong Kong

พอดีที่บ้านต้องเดินทางไปฮ่องกงบ่อย เราเลยไปฮ่องกงกันค่อนข้างบ่อย เฉลี่ย 2 เดือนครั้ง ฮ่องกงเป็นการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศของไท ตอนนั้นไทอายุประมาณ 4 เดือน เพราะฉนั้น พอไปถึง อย่างแรกที่หาคือมีที่ไหนที่ขายของเด็ก ของใช้ ของกิน ทุกสิ่งอย่าง เพราะคิดก่อนเลยว่า ถ้าขาดเหลืออะไร ต้องไปที่ไหน โชคดีแถวบ้านที่ฮ่องกงมีห้างที่ขายของเด็กเยอะมาก เลยอยากจะมาแชร์ เพราะเห็นว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่ทุกครอบครัวน่าจะเลือกไปเป็นอันดับต้น หากจะพาลูกไปเที่ยว เพราะเดินทางง่าย เวลาบินสั้น

การเดินทาง ที่พัก

ง่ายอยู่แล้ว เลือกสายการบินได้เยอะ ไม่ต้องทำวีซ่า หาโรงแรมที่เราโอเคทั้งเรื่องราคาและ location แต่โดยมากโรงแรมถ้าดีๆหน่อย ราคาจะสูง เริ่มต้น ห้าหกพันบาท คนไทยส่วนมากชอบพักแถว Harbour City/Ocean Terminal เพราะshopping ง่าย มีทุกร้าน ก็จะมีพวกโรงแรมที่อยู่ในตัวห้างเลย Prince, Marco polo, Hong Kong, Royal pacific ราคาพอรับได้ ห้องพอรับได้า ถ้าดีหน่อย เดินไม่ไกล แนะนำ Langham Hotel ห้องดี แต่แพง

Kids’ shopping places

1. AEON Mall ทุกสาขา โดยมากอาจจะอยู่ในห้าง และไม่ค่อยอยู่ในตัวเมือง ต้องนั่งใต้ดินออกมา แต่ไม่ไกล ฮ่องกงไปไหนก็ใกล้ค่ะ แผนกขายของเด็กที่นี่ มีทุกอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ รถเข็น แพมเพิส ส่วนมากเป็นยี่ห้อของญี่ปุ่น เคยเทียบราคากับญี่ปุ่น ต่างกันไม่เยอะ บางทีมีของให้เลือกเยอะกว่าญี่ปุ่นด้วย แต่ฮ่องกง แพมเพิสแพง นอกนั้นซื้อได้หมด เราชอบมาก จะมีห้องให้นม เปลี่ยนแพมเพิสสะอาดมาก ไปแล้วไม่ต้องกังวลเลยว่าจะหาอะไรไม่ได้ ถ้าลูกหิวนม เหนื่อย ก็เข้าไปพักใน nursery room

http://www.aeonstores.com.hk/ จะมี store locator ลองหาดูค่ะว่าร้านไหนใกล้เรา

2. Supermarket ที่ขายอาหาร ขนมเด็ก ส่วนมากเราชอบหาซื้อพวกของกิน organics เพราะเมืองไทยขายแพงและตัวเลือกน้อย แต่ supermarket ที่นี่มีให้เลือกเยอะดี โชคดีอีกว่าแถวบ้านมี supermarket ดีๆหลายอันที่ขายของกินเด็ก ลองหาดูนะคะว่าใกล้ๆที่พักมี supermarket เหล่านี้ให้ไปเดินเล่นป่าว

Supermarket ใหญ่ๆ ก็มี  ข้อมูลนี้ขอยืมมาแปะจาก http://www.hongkongfanclub.com นะคะ

Taste 

Festival Walk (Kowloon Tong)
Citygate (Tung Chung)
Stanley Plaza (Stanley)
Hopewell Centre (Wan Chai)
East Point City (Hang Hau, Tseung Kwan O)
Maritime Square (Tsing Yi)
Olympian City 2 (Tai Kok Tsui)
Metroplaza (Kwai Fong, Kwai Chung)
TMTplaza (Tuen Mun)

City Super ราคาสินค้าจะแพงสุด
Times Square, Causeway Bay
Harbour City, Tsim Sha Tsui
ifc mall, Central
New Town Plaza, Sha Tin

Park and Shop

Park and Shop จะหาเจอตามท้องถนน ถ้าเจอสาขาใหญ่ ของก็จะเยอะกว่าสาขาเล็กค่ะ

http://www.parknshop.com/WebShop/StoreLocatorPage.do

Wellcome

สาขาจะเยอะมาก เดินๆก็จะเห็นได้ทั่วไป ราคาถูกสุด แต่สินค้าจะไม่หลากหลาย ส่วนมากจะเป็นของพื้นๆ ไม่มีพวก organics ค่ะ

3. ร้าน baby store ที่ขายแต่ของเด็กเลย จะแนะนำบางที่ เพราะถ้ามีเวลาจำกัดก็เลือกแวะไปดูแค่ร้านเดียวก็พอค่ะ บางอย่างหาซื้อเมืองไทยได้ ก็ไม่จำเป็นต้องขนกลับมา นอกจากว่าราคาถูกกว่ากันเยอะ

  • eugene baby มีทุกอย่างร้านใหญ่มาก แต่เราว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ร้านนี้มีเกือบทุกแบรนด์ที่เป็นของเด็ก ขายพวกเฟอร์นิเจอร์เด็กด้วย http://www.eugenegroup.com.hk/index_shoplist.php
  • babiesrus อันนี้เรายังไม่เคยไป แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของ toysrus ที่ทำแยกออกมาขายของเด็กโดยเฉพาะ http://www.babiesrus.com.hk/
    • Toys R Us, 3/F, Windsor House, Causeway Bay, HK  (Tel: 2991 6222)
      Toys R Us, 3/F, City Plaza, Taikoo Shing, Quarry Bay, HK
      Toys R Us, Shop 01-02, Level 2, Festival Walk, 80 Tat Chee Ave, Kln Tong, Kln  (Tel: 2265 7933)
      Toys R Us, Shop B032, Ocean Terminal, Harbour City, 3 Canton Rd, TST, Kln  (Tel: 2730 9462)
      Toys R Us, G/F, Level 1, New Town Plaza III, Shatin, NT  (Tel: 2605 2225)
      Toys R Us, 219 Maritime Square, Tsing Yi, NT  (Tel: 2431 1118)
      Toys R Us, 5/F, Tsuen Wan Plaza, Tsuen Wan, NT

4. ร้านอาหาร เอาจริงๆว่า เราว่าร้านอาหารในฮ่องกงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเด็กมากเท่าไหร่ ไปร้านไหนก็ต้องคอยขอเก้าอี้เด็ก ถ้าไปพวกร้านติ่มซำ ก็จะให้เหมือนเก้าอี้เสริมวางบนเก้าอี้ธรรมดา ดูงงๆหน่อย ก็ต้องขอนะคะ เพราะทราบกันดีว่าการบริการของคนฮ่องกงมันเป็นยังไง อย่าไปคาดหวังเยอะค่ะ น้ำขาที่ให้ตามร้าน ส่วนมากคนฮ่องกงเอามาล้างตะเกียบกับช้อนค่ะ ไม่ค่อยกินกัน เราก็ควรล้างค่ะ เพราะถ้าเคยเห็นวิธีการล้างจานของแต่ละร้าน จะไม่กล้ากินอะไรค่ะ

5. ห้องน้ำ อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องทำใจค่ะ ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนแพมเพิส มันกจะโอเค ถ้าอยู่ในห้างใหญ่ๆ แต่ถ้าตามท้องถนน ทำใจค่ะ เตรียม wet tissue ไปเยอะๆค่ะ พวกร้านอาหารจะไม่ค่อยให้กระดาษทิชชูนะคะ ต้องพกติดตัวตลอด น้ำเปล่าก็ไม่ค่อยให้ ต้องซื้อติดตัวเหมือนกันค่ะ

6. ร้านยา ดีที่สุดซื้อตามร้าน watson, mannings เพราะจะมีเภสัชประจำ ยาบางอย่างที่เราซื้อได้ที่เมืองไทย เค้าไม่ขายถ้าไม่มีใบหมอนะคะ ซื้อพวกยาทั่วไปได้ เตรียมไปเองดีที่สุด ปกติ ถ้าไปร้านยา เราชอบไปดูวิตามินของเด็ก ของญี่ปุ่น พวกน้ำมันตับปลา เป็นกล่องเหล็ก เหลืองน้ำเงิน มีรูปเด็กแปะอยู่ กล่องละประมาณร้อยกว่าเหรียญค่ะ บางทีก็มีแพมเพิสลดราคา ลองเทียบดูกับ supermarket ข้างบนค่ะ

7. เสื้อผ้าเด็ก ถ้าเป็นพวกแบรนด์เนม ไปที่เดียวมีทุกแบรนด์ ที่ Harbour City ชั้นเดียวกับ Toysrus

น่าจะครบแล้วนะคับ สำหรับการ shopping ของเด็ก สำหรับการไปเที่ยวประมาณ 3-5 วัน ถ้ามีอะไรอยากรู้เพิ่มเติม ก็ถามมาได้คับ 🙂

0

เด็กชายไทไปเที่ยวนิวซีแลนด์ October 2013

IMG_0138IMG_0855

นี่แบบว่าย้อนความจำไปเกือบสองปีแหนะ เป็นทริปยาวและนั่งเครื่องบิน long-haul ครั้งแรกของไท ก่อนหน้านี้มีไปทริปสั้นๆหลายทริปอยู่ จะทยอยย้อนความจำไปตอนไทขึ้นเครื่องบินครั้งแรกนะคับ ทำไมถึงตัดสินใจไปเที่ยวนิวซีแลนด์ หลายเหตุผลอยู่ แต่ต้องบอกก่อนว่า ประเทศนี้เหมาะกับคนที่ชอบการเที่ยวแบบลุย ดูธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีช็อปปิ้งนะค่า และนั่นคือเหตุผลที่ตัดสินใจไป เคยได้เห็นตามหนังสือท่องเที่ยวว่านิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติมาก และคนประเทศเค้าก็น่ารัก friendly และอยากจะเที่ยวแบบลุยๆ และสิ่งที่ว่าลุยคือ:

1. การเช่ารถ camper van และใช้ชีวิตกินนอนใน camper van เป็นเวลา 10 วัน

2. Roadtrip จากเกาะเหนือลงเกาะใต้

3. ณ ตอนนั้นไทอายุแค่ 10 เดือน ลุย!!!!

ขอไม่ได้ไปตามวันนะ เพราะจำไม่ค่อยจะได้ว่าไปเมืองไหนบ้าง เอาแบบรวมๆนะ และจะมาแปะแผนการเดินทางให้คับ

เริ่มจากการเดินทางจากเมืองไทย มีการบินไทยสายเดียวและบินไปลง Auckland เราจองรถไว้ตั้งแต่เมืองไทย ค่าเช่ารถ camper van แบบนอนได้ 3 คนสำหรับ 10 วัน ประมาณ 50,000 บาท เราว่าโอนะ พอถึงก็ไปรับรถที่ศูนย์เช่ารถ ชอบไอเดียอย่างหนึ่งมากคือ ที่เช่ารถทุกที่ จะมีซุ้มอาหาร ของใช้เหลือ ที่คนเช่าก่อนๆเค้าเหลือใช้ ในสภาพดีนะ เช่น น้ำตาล เกลือ ถุงขยะ จานชามกระดาษ ของกิน ขนม กระดาษทิชชู คือเป็นไอเดียที่ดีว่า อะไรก็ตามที่ยังใช้ได้ ก็ไม่ต้องทิ้งมันไป ส่วนคนใหม่มาก็ไม่ต้องไปซื้อ เพราะการที่เรา roadtrip ไม่กี่วัน เราคงไม่ได้ใช้มันหมดทุกอย่าง เราก็ไปค่ะ นิสัยคนไทย ชอบของฟรี ไปยืนเลือกสนุกมาก

คืนแรกนอนที่ Auckland ก่อนอื่นต้องขอยกความดีความชอบให้กับเพื่อนที่น่ารักมากชื่อ May นางไปเที่ยวมาก่อน นางส่ง travel itinerary แบบแทบจะไม่ต้องคิดเพิ่มเลยมาให้ ก่อนมาเราก็เอาแต่ละที่ใส่ใน web ที่บอกระยะทางและเวลามาใส่ไว้ จะได้รู้ว่าต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ เดี๋ยวจะแปะไว้ให้ด้วย การจอดค้างคืน camper van ที่นี่จะต้องจอดในที่ที่จอดได้เท่านั้น จะจอดข้างทางไรงี้ไม่ได้นะคะ เพื่อน May บอกว่าให้สมัครบัตร https://www.top10.co.nz/ เพราะ camp site ที่นี่ค่อนข้างโอเคในแต่ละเมือง เราก็วางแผนโดยการที่หาเมืองที่เราจะไปใน website เค้า แต่ละที่จะมี rating ดาว เหมือน โรงแรมอะ ว่า สถานที่นี้มันอยู่ใน rate ไหน เคยไปนอนอันที่ดีมากและแย่มาก Auckland นี่ไม่ดี ห้องน้ำแย่ค่ะ คือเราเน้นห้องน้ำมาก ตอนนั้นไทยังเด็ก แลยโชคดีว่า อาบน้ำในห้องน้ำเล็กๆบนรถได้ มี camp site อื่นๆอีกให้เลือกนะ (http://www.holidayparks.co.nz/, http://www.kiwiholidayparks.com/) บางเมืองก็จะเป็นของทางราชการอารมณ์บ้านพักอุทยานเมืองไทย สำหรับใครที่ไม่ต้องการนอนในรถ บาง camp site ก็มีห้องให้เช่ารายวัน ต้องดูราบละเอียดตอนจองใน web จะบอกละเอียดเลยว่า camp site มี facilities อะไรบ้าง มีที่จั๊มพ์ไฟ (power site) เพราะถ้านอนในรถ ตอนหาที่มี power site ตอนนอนก็เสียบปลั๊ก เปิด heater มีไฟใช้ตอนกลางคืน ถ้า camp site ไหนไม่มี power site ไม่แนะนำค่า อ้อ heater ใช้แก๊ซ ต้องคอยดู ถ้าหมด ต้องไปหาเติมที่ปั๊มนะ เพราะถ้าไปหน้าหนาว จะโหดมากตอนกลางคืน ถ้าแก๊ซหมด เราไปช่วงหมดหน้าหนาวเข้าหน้าร้อน กลางคืนหนาวมาก กลางวันกำลังดี แต่เจอฝนเยอะอยู่

นี่คือสิ่งที่เราเตรียมก่อนเดินทาง 

Things to prepare and do:

Pao/Golf:

  • เสื้อผ้า
  • อาหาร ข้าวสาร
  • หม้อหุงข้าว
  • ปลั๊ก
  • ไฟฉาย, ถ่าน
  • ผ้าปูที่นอน double 9×1.8 m, ปลอกหมอน
  • ร่ม
  • ยา
  • inter license, passport
  • ถุงมือซักผ้า
  • camera/charger
  • Adaptor
  • Can opener
  • Ziplock, plastic bag, หนังยาง
  • slippers

Ty:

  • เสื้อผ้า
  • หมวกหลายๆแบบ
  • เครื่องปั่นข้าว
  • น้ำยาซักผ้า
  • น้ำยาล้างขวดนม
  • เครื่องปั๊ม, ขวดนม
  • TOYS
  • เป้ ที่ครอบกัด
  • จุ๊กกี้

จาก Auckland ขับไป Rotarua ไปดูที่เค้าสร้างฉากถ่ายหนัง Hobbits น่่ารักดี อากาศกับบรรยากาศดี อารมณ์เดินเล่นบนเขาไปเรื่อยๆ แล้วก็มี Rotarua Lake สวยงามค่า

จาก Rotarua ขับไป Taupo ก่อนถึงจะมีน้ำตกสวยมากๆชื่อ Huka Falls มันใหญ่และสวยมาก

จาก Taupo ขับไป Wellington เพื่อจะขึ้น Ferry ข้ามไปเกาะใต้ ขับรถกันยาวมากเกือบ 400 กิโล ถึง Wellington ก็เย็นแล้ว และต้องขึ้น Ferry เช้ามากๆอีกวัน ขับไปดู camp site มันไม่โอ เลยหาโรงแรมนอนเอา

วันถัดมาไปขึ้น Ferry โดยการขับรถเข้าใต้ท้อง แล้วเราก็ขึ้นไปนั่งรอ ใช้เวลาข้ามประมาณ 3 ชั่วโมง วิวสวยมาก แต่เราง่วงมาก เลยหลับซะ ไทก็ให้คุณสามีดูไป วันนี้จำได้ว่า ไทเริ่มน้ำมูกไหลละ เพราะลมแรง ฝนตกพรำๆด้วย

พอข้ามฝั่งจะถึงเมืองชื่อ Picton ไม่มีอะไร ก็ขับต่อไป Kaikoura อันนี้จำไม่ค่อยได้ว่า เราพักกันที่เมืองนี้หรือขับต่อไป Christchurch เลย เหมือนจะจำได้ว่าไม่ได้นอนที่ Kaikoura เพราะเมืองเล็ก ไม่ได้มีอะไร

ตอนถึง Christchurch ยังงงๆเบลอๆ ลืมไปว่าเมืองนี้โดนแผ่นดินไหวไปไม่กี่ปีก่อน ก็รู้สึกว่าเป็นเมืองที่ดูหดหู่ ดูซ่อมตึก ซ่อมถนนเยอะไปหมด แต่ camp site ที่นี่ถือว่าดีทีสุด ใหญ่มาก จาก Christchurch ขับต่อไป Hokitika-Franz Josef glacier แต่เพราะเป็นหน้าฝน เลยอดขึ้นไปดู Fox Glacier แต่ตอนนั้น ไทไข้ขึ้นร้องทั้งคืนเลย เครียดมาก เช็ดตัวทั้งคืน ให้กินยาลดไข้ วันต่อมาค่อยดีขึ้นหน่อย ไข้ลด

จาก Fox Glacier ไป Wanaka ที่นี่ที่ดังและต้องมาดูคือ Lake Wanaka ประเทศนี้ทะเลสาบเยอะจริงๆ และสวยทุกที่ น้ำในทะเลสาบมันจะเป็นสีเขียวมรกต ฟ้า เขียวสลับไปมา เพราะน้ำที่ละลายไหลลงมาจากภูเขา สวยมากๆๆๆๆๆ

จาก Wanaka ขับไป Queenstown เป็น City ทีมีความเป็นเมืองสุดละ ตั้งแต่ถึงเนี่ย เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก ร้านสวยๆน่ารักเยอะ เดินสนุก camp site ที่นี่ก็ทำแบบ eco ดี ชอบๆ

จาก Queenstown ไป mt.cook คือรู้สึกว่าโชคดีมาก ตอนขับไปเนี่ย เจอสภาพอากาศทุกรูปแบบ ร้อน แดดออก ฝนตก ยังคุยกับกอฟเลยว่าถ้าขึ้น mt.cook แล้วหิมะตก จะเป็นหิมะแรกของไทเลยนะ พอขึ้นไปถึง check in เข้าโรงแรม สักพักหิมะตก กรี๊ดมากกกก ตื่นมาตอนเช้าข้างนอกเป็นสีขาวเลย สวยดี แต่ก็เสียดายเลยขี้นไปเดินเขาไม่ได้

จาก mt.cook ตอนแรกจะไปนอนที่ Lake Tekapo แต่พอไปถึงเมืองมันเล็กๆ แล้วเหลือเวลา เลยออกนอกเส้นทาง แต่ก็เป็นทางกลับไป Christchurch เพราะต้องกลับไปขึ้นเครื่องจาก Christchurch ไป Auckland ผ่านเมืองชื่อ Geraldine คือฟลุคมาก เป็นเมืองเล็กๆ ออก vintage หน่อยๆ มีโบสถ์เก่า ถนนเดินเลียบแม่น้ำ ฟินและอินมาก camp site ที่นี่เป็นของ kiwiholidayspark ไม่แย่ แก๊งส์ผูุ้สูงอายุจอดกันเต็ม พวกเราเป็นแก๊งส์เอเชียกลุ่มเดียว แต่ความน่ารักของคนประเทศนี้คือ ไม่มีเรื่องการเหยียดผิวหรือชนชาติ เที่ยวสบายใจมากค่ะ โอวววว ลืมบอกว่า ถ้าชอบทำกับข้าว ควรค่ามากค่ะ ไปซื้อหอยแมลงภู่นิวตามซุปเปอร์มาอบไวน์ขาว มันแซบมาก หอยตัวโตๆเป็นๆสดๆ เนื้อแกะกับเนื้อวัวนี่สุดอะ สามีฟิน ชอบเนื้อกับหอยอยู่แล้ว ทำกับข้าวมันส์มาก แต่ละ camp site จะมีครัวกลางให้ใช้ เพราะถึงแม้บนรถจะมีเตาแก๊ซ แต่ถ้าทำอาหารหนัก รถก็จะเหม็นมาก ไม่แนะนำค่ะ

วันสุดท้ายแล้ว เร็วเนอะ วันที่ 10 ก็กลับไปนอนที่ Christchurch อีกหนึ่งคืน เพราะขึ้นเครื่องเช้ากลับไป Auckland และจาก Auckland ก็บินกลับไทย

เรื่องของการดูแลเด็กชายไท ณ อายุ 10 เดือน เราเตรียมเครื่องปั่นข้าวไป เพราะไทยังกินอาหารบดอยู่ ระหว่างวัน นมแม่แบบ 5-6 รอบ เพราะอากาศหนาวมั้ง ไทอยากกินนมกับนอนตลอด  พอดีเราให้ไทกินนมแม่ล้วนถึง 2 ขวบเต็ม เราเลยไม่แน่ใจว่า การเตรียมนมผงต้องเตรียมปริมาณเท่าไหร่สำหรับเด็กอายุประมาณนี้ เพราะจำได้ว่า ตอนนั้น ไทกินอาหาร 2 มื้อ กลางวันกับเย็น เช้ากินผลไม้ เราก็ซื้อกล้วยหอมบดกับอโวคาโด กินง่ายอยู่ เตรียมพวกช้อนบดไปด้วย ส่วนอาหารก็ซื้อของสดจากซุปเปอร์ ทำเก็บใส่ตู้เย็น ช่องแข็งสำหรับ 2-3 วัน

เสื้อผ้า หมวก ยาแก้ไข้ แก้หวัด สำคัญมากๆ เด็กๆอย่าให้โดนลมที่หัว สำหรับไท ต่อให้หนาวยังไง ถ้าไม่มีลมโดนหัว โทไม่เคยเป็นหวัด แต่ถ้าลมแรงเป่าหัว เป็นหวัดทุกที น่าจะหมดแล้วนะสำหรับของที่ต้องเตรียมให้เด็กวัยประมาณนี้

0

เด็กชายไทไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบมีหิมะโด้ย January 2015

11081364_10155347659085052_7548653137924373468_n

เคยเกริ่นๆแพพๆว่า ทริปนี้ พ่อแม่เตรียมตัว เตรียมใจและเตรียมเงินไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เพราะพ่อติดใจเล่น snowboard ตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ก่อนท้องนินุง เลยยังไม่ได้ไปสักทีตั้งแต่คลอดไท และพอไทโตพอจะวิ่งจะเดินได้ ถึงได้ระริกระรี้รีบแพลนสุดๆ โชคดี คราวนี้สะสมไมล์ไว้ เลยประหยัดค่าตั๋วไปได้เยอะ แต่ก็เสียค่าไม่ฉลาดเรื่องที่พักไปหลายอยู่ที่โตเกียว เป็นบทเรียนค่าาาา

เราแพลนไป Niseko เพราะพ่อแม่เคยไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว พ่ออินกับ snowboard มาก แม่พยายามเรียนและอินแล้วแต่ล่ม ล้ม เจ็บ คอเคล็ด พ่อกลับมาฝันถึงการเล่น snowboard เป็นเวลาถึงสี่ปี คืออินมากกกกกกกจีจี คราวนี้เป๊าเลยตัดสินใจว่า ไม่เอา snowboard ละ จะลอง ski ดู เพราะปีหน้าไทจะเริ่มเรียนสกีได้ แล้วถ้าแม่เล่นไม่ได้เลย มันดูจ๋อยๆอะ เกริ่นเกี่ยวกับ Niseko แพพ Niseko ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เล่น snowboard and ski ที่ดีที่สุดในเอเชียหรือเกือบๆในโลก เพราะเขามี powder snow หิมะของเขาจะนุ่มนิ่มเป็น powder ก็จะทำให้นักเล่นทั้งหลายเล่นมันส์ สนุก ไม่ค่อยเจ็บเวลาล้ม วิวสวย หิมะสวย เขาสวย คนไปเล่นส่วนมากก็จะเป็นต่างชาติซะเยอะ คนญี่ปุ่นส่วนมากจะไปเล่นที่ Nagano เพราะใกล้โตเกียวกว่าเยอะ เดินทางง่าย

แต่คนไทย ก็สามารถบินตรงไปลง Chitose (Sapporo)แล้วนั่งรถต่อไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง การเดินทางก็ไม่ยากนะ การบินไทยมีบินทุกวัน แต่ได้ข่าวว่าจะยกเลิกเส้นทางนี้เร็วๆนี้ เสียใจหง่ะ

นั่งรถบัสจากสนามบินไปถึง Niseko ได้เลย เรื่องการจองห้อง อย่างของเป๊าไปกันสามคนพ่อแม่ลูก ก็จองของ www.holidayniseko.com เป๊าเลือกพักที่ Snowbird เพราะราคาไม่แพง ใกล้กับที่เคยพักหลายปีก่อน แล้วก็ใกล้พวกร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ดูจากในรูปก็เป็นห้องมีครัว ห้องน้ำครบไรงี้ ของเจ้านี้เค้ามีพักหลายราคานะ แพงกว่าดีกว่า หรือ ถูกกว่าหน่อยก็มี ลองเทียบๆดู เพื่อนที่ไปด้วย เค้าไปกันสิบกว่าคน ก็เช่าบ้านทั้งหลัง สวยดี ห้องนอนหลายห้องมาก แต่ก็ราคาสูงใช้ได้ คือถ้าไปเป็นสิบคน เช่าเป็นบ้านก็จะคุ้มกว่าค่ะ

ไปถึง สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นเลย แนะนำให้ลงเรียนคอร์สอย่างน้อยๆ 3-4 วัน ถ้าเรียนเราจะได้พื้นฐาน ทำให้เล่นได้เร็วขึ้น แต่เป๊าก็ช้านะ เป็นพวกขี้กลัว ถ้าไม่กลัวนี่ ไปเร็วชัวร์ๆ แล้วก็ซื้อบัตรขึ้นไปเล่นตามเขาต่างๆ จะซื้อเป็นต่อวันแบบ one day pass or 2-3-4-5 days pass ได้หมด ยิ่งซื้อวันเยอะก็ถูกลง และถ้าพึ่งเริ่มเล่น ก็ไปเช่าพวกอุปกรณ์อย่าง snowboard or ski, boots, เสื้อผ้าก็เช่าได้หมด ยกเว้นถุงมือถุงเท้าต้องซื้อเอง ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะชอบเล่นหรือไม่ ไปเช่าก่อนโนะ ชอบแล้วค่อยมาช็อปปิ้งอุปกรณ์ค่ะ อยู่ที่ Niseko ไม่มีร้านอะไรเยอะ วันๆก็หมดเงินไปกับถุงมือ หมวกไหมพรม คือแบบ ถามว่า ใส่ปีละกี่ครั้งค่ะ เอาหน่ะ เล่นไม่เก่ง แต่อุปกรณ์ดีเด่นละกัน ถ่ายรูปสวยๆเกร๋ๆงี้ ส่วนใครทีเคยเล่น คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากคับ

ตอนนี้ที่แพลนไว้ ก็รอไทอายุ 3 ขวบ จะไปประมาณเดือนก.พ. ปีหน้า เพราะไทจะเริ่มเรียนสกีได้แล้ว เริ่มเรียนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นเร็ว คุณครูบอกว่าเด็กๆจะเรียนรู้ได้ไวมาก เพราะศูนย์แรงโน้มถ่วงของเด็กกับโลกมันใกล้กว่าผู้ใหญ่ เด็กๆเวลาเล่นก็จะไม่กลัว ตอนเรียนแล้วเห็นเด็กๆ 3-4 ขวบเรียนอยู่ นี่อายมากกกกก รอค่ะ รอปีหน้า จะพาไทเรียนค่ะ แม่ก็ต้องเรียนค่ะ จะได้เล่นกับลูกได้ 🙂

เราอยู่ที่ Niseko 5 คืน ก็บินเข้าโตเกียวเที่ยวต่ออีก 5 คืน โตเกียวคงไม่ได้เล่าเยอะ เพราะไม่ได้ออกจากโตเกียวไปเที่ยวไหน อยู่แต่ในเมือง แต่ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ใหม่ๆ จากเดิมๆที่ไปแต่ shinjuku shibuya ginza คราวนี้ได้ไป daikanyama ชอบมาก นั่งใต้ดินไปไม่กีสถานี เป็น shopping street เดินได้เรื่อยๆ มีเวิ้งที่เป็นร้านหนังสือ kino น่ารักดี เหมาะกับการให้เด็กไปเดินเล่น หมาเยอะมาก น่ารักดี มีร้านจักรยานให้เช่า มีแบบที่มีเก้าอีเด็กด้วย ตอนไปหนาวเกิ๊น เลยไม่ได้เช่า กะว่าคราวหน้าไป จะลองเช่าขี่วนรอบๆดู

อย่างเดียวที่พลาดในทริปนี้ คือดันไปจองห้องกับ airbnb กะจะประหยัด เป็นบ้านเจ๊มาจาก Chili ดูในรูปโอค่ะ พอไปถึงเครียดค่ะ ไม่เปิด heater บ้านแม่งหนาวมาก อาบน้ำต้องรอให้น้ำอุ่นสักพัก พอเปิดทิ้งไว้ ก็มาว่า คือชีงกอีก คืนแรกอาบน้ำเสร็จ ไทออกมาปากม่วงเลย ส่วนอิแม่ นอนไม่ได้ทั้งคืน คลุมโปงก็แล้ว ก็ยังหนาวอยู่ ตื่นมาหาโรงแรมใหม่เลยค่า ยอมเสียตังค์ที่จ่ายไปแล้ว ไม่กล้าบอกเจ๊แกตรงๆ เพราะดูแกไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ เลยบอกว่า เราเปลี่ยนแผนไปเที่ยวต่างจังหวัดแทน แล้วก็รีบเก็บของออกตอนเจ๊แกออกจากบ้านไปแล้ว ไปนอนที่ Shinjuku Granbell ห้องเล็กตามสไตล์ เดินไกลอยู่ แต่ห้องสะอาดใหม่ คนไทยพักเยอะเหมือนกัน ราคาโอเค ไม่มีอาหารเช้า

อ้อ แนะนำอย่างนึง ถ้าต้องการนั่งแท็กซี่ นอกจากเรียกปกติแล้ว UBER ญี่ปุ่นดีมาก ราคาใกล้เคียงกับแท็กซี่ปกติ เราเรียก UBER ไปสนามบิน Haneda เพราะกระเป๋าเยอะมาก ก็ประมาณ 10,000 yen ถ้านั่งแท็กซี่ต่อรถบัส ต้องขนของเองก็ประมาณ 5,000 เยน

สรุป we had a wonderful 10 days trip ka และ Japan ก็เป็น top destinations ในใจมี้ตลอด อยากจะไปมันทุกเดือน LOL

0

เด็กชายไทไปเที่ยวมัลดีฟส์ December 2014

10421358_10154944584400052_7979944085419778230_n 10624881_10154948489215052_6191856424668200521_n

กว่าจะเริ่มได้เขียนทริปนี้ พอไทอายุ 2 ขวบแล้วซนเป็นลิงค่างมากกกกก ไม่ค่อยมีเวลาได้นั่งเฉยๆเลย

เกริ่นค่ะ การได้ไปเที่ยวมัลดีฟส์ เป็นความโชคดีของครอบครัวเรา เพราะถ้าไม่ได้ความอนุเคราะห์จากพี่สาวใจดี พี่บิ๋ม เราคงไม่ได้ไป เพราะมันแพงมว้ากกกกกก

ก่อนเดินทาง เรื่องตั๋ว โรงแรม เรื่องตั๋วก่อน เช็ค Bangkok Airways ก่อน เพราะบินตรง แต่เวลาขากลับไม่ดี ออกจากที่นู่น 11 โมงเช้า เท่ากับเสียไปหนึ่งวันเต็มๆ ถึงแม้เวลาขาไปจะแซบออกประมาณ 9 โมงเช้าจากกทม เลยตัดสินใจบิน Srinlankan Airlines โดยไปนอนที่ Colombo หนึ่งคืน เพราะโรงแรมถูกดี ก็เลยอะ แวะนอนหนึ่งคืน ดูเมืองนู่นนี่ จะเล่าให้ฟังต่อว่า เซ็งเมืองนี้ยังไง

วันเดินทาง ไฟล์ทออกเจ็ดโมงเช้า ดีเลย์เกือบสองชั่วโมงค่าาา เซ็งมาก เพราะตืนแต่ตีห้า แล้วข้อเสียของไฟล์ทนี้คือไม่บินตรงเข้า Colombo แวะเมืองทิงนองนอยหาถ้วยอะไรไม่รู้ ได้ยินว่า เพราะเป็นสนามบินใหม่ อยากให้มีสายการบินมาแวะหน่อย เสียเวลามาก เพราะจอดให้คนอยู่ในเครื่องเกือบสองชัวโมง บินต่ออีก 20 นาที แวะเพื่อถ้วยอะไรไม่ทราบ ส่วน Inflight Service ของ Srilankan Airlines อย่าคาดหวังก็โอเค หลับหูหลับตาบินนะคะ พอถึง อ่านมาในเน็ตว่าไม่ต้องทำวีซ่า ไปถึง ต้องทำนะคะ แต่ทำ Visa on arrival ได้ เสียตังค์ไปค่ะ

การเดินทางเข้าเมืองควรเรียกแท็กซี่ในสนามบิน อย่าเรียกเองข้างนอก น่ากลัวมาก นั่งเกือบสองชั่วโมง รถติดมากกกกก ต้องขึ้นทางด่วนนะ พูดเลย เสียอีกแค่ 300 รูปีชีวิตดีขึ้นแยะ จองรรแบบกึ่งโฮสเทล ก็ตามราคาค่ะ เกือบสามพัน ห้องน้ำไม่โอ ห้องไม่สะอาดมาก คืนเดียว มี้ทนได้

วันที่สอง ไฟล์ทเช้าอีกละ กลัวไม่คุ้ม ตื่นตีห้าอีก แต่นั่งแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึง Male พอถึงก็ออกมาหาเคาน์เตอร์โรงแรม Soneva ก็พาไปรอขึ้นเครื่องบินน้ำ อันนี้สุดอะ ประสบการณ์ชีวิตมาก ไทชอบมาก นั่งสักพักหลับเลย คือวิวมันจะดีมาก จะเห็นพวก Atoll ที่เป็นเกาะๆจุดๆเขียวๆ ไม่รู้ควรนิยามยังไง แต่สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่เสียงดังอะ ถ้าเด็กเล็กขึ้นอาจจะกลัว ต้องหาที่ปิดหูให้ใส่ นั่งครึ่งชั่วโมง ไปแล่นลงกลางทะเล แล้วโรงแรมก็เอาเรือมารับ โอ้ววววว มันดูเท่ห์มากกกกกก พอขึ้นเรือปุ๊บ ก็โดนยึดรองเท้า เพราะนโยบายการเข้าพักที่นี้คือ ให้เดินเท้าเปล่าตลอดการพัก รู้สึกดีมาก กลับมาฝ่าเท่าเนียนกริบค่ะ พอเรือเทียบท่า ก็เห็นปลาฉลามตัวเล็กๆ น่ารักมากกก แล้วก็ปลาอื่นๆ น้ำใสกิ๊ก Hotel Manager มา welcome แล้วก็แนะนำนู่นนี่ ที่นี่จะมีพนักงานคล้ายๆ butler มาคอยดูแล แต่จะเรียกว่า Mr.Friday คือมีอะไรโทรหาคนนี้อย่างเดียว อยากได้อะไรก็ตาม จองห้องอาหาร บลาๆๆๆๆๆ ทำทุกอย่าง

โชคดีว่าไททานได้ทุกอย่างแล้ว เรื่องอาหารเลยไม่ใช่ประเด็น ถามว่าประเด็นอะไรที่ควรเป็นห่วงถ้าพาลูกไปทะเลไม๊ จริงๆก็แทบจะไม่มี แค่เตรียมตัวเตรียมใจพาลูกเที่ยวให้สนุก ครีมกันแดด สำคัญมากกับพวกชุดว่ายน้ำแขนขายาวก็จะดีแลวก็หมวก อุปกรณ์เล่นน้ำ ห่วงยาง ของเล่นทราย จริงๆโรงแรมนี้มีให้หมด แต่คุณภาพไม่ได้ดีมาก เอาไปเองได้ก็ดีกว่า ยากันยุง ยาทั่วไป แก้หวัดแก้ไข้ เพราะประเทศแปลกๆยิ่งอยู่บนเกาะ หาหมอคงยาก เอายาที่เราใช้ประจำไปเผื่อด้วย

จริงๆทริปนี้ไม่ได้มีรายละเอียดการเตรียมของให้ลูกเยอะ เพราะถ้าลูกอายุ 2 ขวบ ก็เริ่มทำอะไรเป็นเอง ทานข้าวได้ เหนื่อยตรงวิ่งตามเนี่ยแหละ ต้องระวังอย่าให้คลาดสายตา ยิ่งไปทะเลใกล้น้ำ ใกล้สระ อย่างไทนี้พร้อมโดดน้ำตลอด เพราะเรียนว่ายน้ำ ก็โดดอย่างเดียว จะโดดลงจากสะพานลงทะเลตั้งหลายรอบ วิ่งไปจับเกือบไม่ทัน

ขอแนะนำเป็น tips การเดินทางดีกว่า ระหว่างข้อดีข้อเสียของแต่ละสายการบิน และการเลือกโรงแรม

ไปมัลดีฟส์ถ้าบินตรงมีสายการบิน Bangkok Airways สายเดียว ได้ข่าวว่า ปีหน้าเมษา Mega Maldives Airines จะเริ่มบินตรง ตารางเวลาค่อนข้างโอนะ เผื่อแพลนไปปีหน้าก็อาจจะลองรอสายนี้เปิดก่อน

ถ้าไม่อยากรีบกลับวันกลับ เพราะ Bangkok Airways ออกจากมัลดีฟส์ 11 โมงเช้ากว่า ถ้าโรงแรมอยู่ไกล ก็ต้องออกแต่เช้ามากๆๆๆๆ เหมือนหายไปวันหนึ่งเลย ก็มี Srilankan Airlines and Thai Airways เวลาก็แล้วแต่เลือกว่าจะต่อไฟล์ทไปมัลดีฟส์เลย หรือจะนอน Colombo คืนหนึ่งก่อน เพราะเที่ยวบิน Domestic มีแค่ Srilanakan Airlines ที่บินจาก Colombo to Male

ข้อควรระวังถ้าไปเที่ยว Colombo “DO NOT TAKE THEIR TUKTUK!!!!!!” มันขี้โกหก หลอกลวง ให้โรงแรมเรียกให้ดีที่สุด เดินถนนก็ระวังกระเป๋านิดนุง คนประเทศนี้ท่าทางชอบเด็ก เพราะตอนเข็นไทเดินบนถนน ต้องมีคนมาจับหน้าไทตลอด ก็ไม่ค่อยชอบนะ เพราะมือจับไรมาก็ไม่รู้ ถ้ามาเล่นเฉยๆก็โออยู่ ก็ดูลูกเราดีๆ อย่าให้ห่างสายตาดีที่สุด

พวกค่าใช้จ่าย อาหาร โรงแรม การเดินทาง ไม่แพง อาหารก็อร่อยใช้ได้นะ แปลกๆหน่อย เป็นพวก curry แต่ไม่จัดเท่าอาหารแขก โรงแรมถ้าเลือกได้ ควรเลือกพวก chain hotels อะ เพราะห้องน่าจะสะอาดตามมาตรฐาน ยิ่งถ้ามีเด็กไปด้วย

Area ที่น่าไป ถ้าไปนอนแค่คืนเดียวนะ ถนนชื่อ Galle street จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟดีๆอยู่หลายร้าน ไปได้แค่นี้ เพราะวันที่ไปฝนตกหนัก เหนื่อยมากเพราะตื่นเช้า เลยไม่ได้ไปไหนไกล กลับมานอนเร็วเพราะอีกวันก็ตื่นเช้า สรุปว่า ไม่ได้ว้าวกับ Colombo เท่าไหร่ เจอพี่คนไทย เค้าแนะนำให้ไปทางเหนือของ Srilanka พวกเมืองปลูกชา เห็นว่าดีมากกก อยากไปอยู่เหมือนกัน รอลูกโตกว่านี้หน่อย เพราะเดินทางลำบากเกิน

ส่วน Maldives เห็น packages ที่เป็นพวก bundle ตั๋ว อาหารสามมื้อ อยู่หลายที่ ขึ้นอยู่กับงบประมาณเลยจ้า ล่าสุดเห็นของ Centara มี promotion อยู่ที่ทำกับ Central credit card แต่ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน peak season from December-March/April ช่วงนี้ราคาห้องก็จะแพง ช่วงหน้าฝนราคาจะต่ำกว่า ก็ต้องไปเสี่ยงเจอฝนเอา เอาประสบการณ์ส่วนตัวที่พักที่ Soneva Fushi เป็นโรงแรมที่เน้นเรื่องการเที่ยวในอารมณ์ธรรมชาติ ขี่จักรยานรอบเกาะ เห็นสัตว์ต่างๆ นก กระต่าย ต้นไม้เยอะๆ เป๊าว่าเหมาะกับเด็กวัยเรียนรู้มาก เพราะไม่ได้เห็นแค่ปลา แต่เห็นวิถีธรรมชาติเยอะมาก ห้องพักใหญ่มาก ติดชายหาดทุกห้อง แต่ที่นี่ไม่มี water villa เพราะไม่ใช่ concept โรงแรมเค้า เป๊าเองไม่เคยพัก water villa แต่ตอนแรกก็คิดว่า เออ มา มัลดีฟส์ก็อยากนอน water villa นะ เป๊าว่ามันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง เพราะคุยกับพนักงานที่ Soneva ถามว่าทำไมโรงแรมนี้ไม่ทำ water villa เค้าบอกว่า เจ้าของตั้งใจทำให้เป็น concept Robinson Crusoe แบบเหมือนหลงมาอยู่ป่างิ เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกที่พักก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบละ ก็ต้องดูภาพรวม ห้อง เกาะของโรงแรมว่าเป็นแบบไหน แต่สำหรับที่ Soneva Fushi ชอบมากกกก พูดเลอออออ เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลก เนตก็มีเฉพาะตอนอยู่ในห้อง นอกห้องไม่มีให้ใช้เลย ก็ดีนะ ที่ประทับใจที่สุดคือ การที่เห็นไทมีความสุขและสนุกกับธรรมชาติล้วนๆ การที่เห็นไทไม่ต้องใส่รองเท้าเลย หน้าตาเลอะๆ หัวเปียกๆ เล่นทราย โดดลงน้ำ ไม่ต้องห่วงลุค ห่วงสวย แคร์สายตาใครอยู่ 4 วัน 3 คืน มันโคตรดีอะ การที่แค่นั่งดูลูกตักทรายวนไปวนมาก็โคตรจะมีความสุขละ

แต่…..สำหรับใครที่คิดว่ามัลดีฟส์มันไกลไป แพงไป แนะนำเกาะหลีเป๊ะ เดินทางไปยากอยู่ไม่รู้ตอนนี้ง่ายขึ้นยัง ทะเล น้ำ ปลาสวยพอๆกับมัลดีฟส์ ปลามีเยอะกว่าด้วย โรงแรมอาจจะมีตัวเลือกไม่เยอะ ตอนเป๊าไปหลายปีแล้วไปพัก Cast Away ชอบนะ Concept คล้ายๆกันแต่ไม่หรูหราเท่า ก็ตามราคาเนาะ แต่ทะเลสวยมากจริงๆ รีบไปก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้ เพราะคนไทยเที่ยวแบบไม่รักษาธรรมชาติค่ะ ตอนนี้เห็นว่ามีโรงแรมใหม่หลายที่อยู่

ถึงบอกว่า ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เป็นการปล่อยจิต พักร้อนจริงๆ และคุ้มค่ามากที่สุดในโลก ขอกราบงามๆพี่บิ๋มอีก 180 ล้านคร้งนะค่า