0

การตัดสินใจที่จะมีคนๆหนึ่งเดินข้างเราไปตลอด

IMG_0016

โดยส่วนตัว เราไม่ค่อยชอบคำว่า แต่งงาน เท่าไหร่นะ ไม่รู้ทำไม แค่รู้สึกว่ามันดูผูกมัด มันดูเป็นทางการ เป็นพิธีการ เรายอมรับเลยว่า ตั้งแต่เด็ก เราก็มีความฝันแบบเจ้าหญิงว่า อยากจะได้แต่งงานกับผู้ชายหล่อๆ รวยๆ อยู่ในบ้านใหญ่ๆ อะไรแบบนั้น จนโตขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เห็นปัญหาของครอบครัวตัวเองมาตลอด และการที่เราเป็นลูกคนโต ยิ่งต้องรับภาระหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปรับผิดชอบ รับรู้มากที่สุด จนมีคำถามว่า อะไรคือความหมายของคำว่า แต่งงาน จริงๆมันก็คือการประกาศให้ทุกคนรู้ว่า นี่นะ ชั้นจะอยู่กินกับคนๆนี้นะ ชั้นจะตั้งท้องมีลูกกับคนนี้นะ และทุกวันนี้ รอบตัวเรา ก็ได้รับรู้ถึง การเลิกกัน การหย่าร้างของหลายๆคู่ เคยมีบางคนมาพูดกับเรานะ ว่าระบบการแต่งงานมันจะล่มสลายในอนาคต เพราะสัทธิการแต่งงาน ผัวเดียวเมียเดียว จริงๆก็พึ่งจะมีมาไม่นาน ดูสมัยก่อน ประวัติศาสตร์จีน ฝรั่ง ไทย ผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวย สังคมชั้นสูง ก็ล้วนแล้วแต่มีหลายภรรยา ก็จริงนะ แต่สำหรับเรา เราเชื่ออย่างหนึ่ง ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราเชื่อในเรื่องของความซื่อสัตย์ เชื่อว่าที่เราตัดสินใจจะแต่งงานกับคนๆนี้ ไม่ใช่เพราะคำว่า แต่งงาน แต่เพราะเราตัดสินใจที่อยากจะใช้ชีวิตที่เหลือของเราเดินไปกับคนๆนี้ไปตลอด เราชื่นชมและยิ้มทุกครั้งที่เราไปต่างประเทศหรือคู่สามีภรรยาต่างชาติ โดยมากเป็นชาวยุโรปที่เค้าเดินจูงมือกัน ไปเดินเล่นในสวน หรือถ้าพอยังมีกำลังวังชาเที่ยวได้ ก็จะเห็นพากันไปเที่ยวต่างประเทศกันสองคนสามีภรรยา ทำไมพวกเค้าถึงทำได้หล่ะ เราคิดเองนะ เพราะคนเหล่านี้ เค้าเชื่อในชีวิตคู่ เชื่อในคำมั่นสัญญาที่เค้าให้ต่อกันว่าจะดูแลซึ่งกันและกัน แน่นอน ไม่มีคู่ไหนที่ไม่เคยทะเลาะกัน แต่เราก็เชื่ออีกแหละว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา ว่าจะเชื่อในชีวิตคู่และบั้นปลายชีวิตเราอย่างไร

สามีเราอายุน้อยกว่าเราเกือบสามปี ตอนเจอกัน พี่แกเด็กมา พึ่งเรียนจบ ตอนเจอกัน ไม่ได้คิดแบบที่เขียนมาด้านบนหรอก แต่เป็นผู้ชายคนแรกที่เราอยากจะเป็นคนเข้าหาก่อน เพราะพี่แกไม่ทำอะไรเลย ในสมัยนั้น ยังมี msn อยู่ เพื่อนรักก็น่ารักนะ แทนที่จะให้เบอร์ไปเลย ดันให้ msn เพื่อ??? เราก็รอ ร้อ รอ ให้เค้าแอดมา ไม่มาสักที จนถอดใจละ พี่แกถึงได้โทรมา นั่นคือจุดเริ่มต้น เราคุยกันเร็ว คบกันก็นับว่าเร็ว ก่อนจะตัดสินใจคบกัน ช่วงนั้นเรารู้สึกเบื่อกบการทำงานมา มีปัญหากับครอบครัวเยอะ เพราะการที่ทำงานกับที่บ้านเนี่ยแหละ เลยอยากจะไปหาอะไรทำ ที่เราไม่เคยทำ เลยลองหาค่ายอาสาเป็นครู จนเจอ โครงการครูบ้านนอก ก็ตัดสินใจไปด้วยกัน เพราะจะได้เห็นๆรู้ๆกันไปเลย เพราะชีวิตที่ผ่านมา ก็เจอผู้ชายมาหลายแบบนะ เริ่มต้นสวยหรูหมด สุดท้ายก็เลิกไม่เป็นท่าเกือบหมด สี่วันสามคืนของการไปค่ายด้วยกัน เลยตัดสินใจว่า อยากจะคบกับคนๆนี้ เพราะเค้าดูธรรมดา ติดดิน ออกติสต์มากๆ

จริงๆก่อนไปค่าย เราเกือบจะไม่ได้มีชีวิตคู่กับคุณสามีแล้ว ก็ดูเป็นปัญหาที่เราเชื่อว่าหลายๆคนเจอเหมือนเรานะ ตอนแรกที่เจอกันคุยกัน พี่แกยังไม่ได้รู้ว่า เราทำงานอะไร ธุรกิจที่บ้านทำอะไร จนมีวันหนึ่ง พอพี่แกรู้ อยู่ดีๆพี่แกก็หายไป ไม่โทรมา เราก็งงมาก พอได้คุย ถึงได้รู้ว่า เค้ากลัวกับ background ครอบครัวของเรา เราเข้าใจนะ แต่เราก็พูดว่า เงินทอง ธุรกิจไม่มีอันไหนที่เป็นของเราเลย เพราะพ่อแม่เราพูดเสมอว่า เราจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น เราจะต้องสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้าจะคบกันต่อ เราต้องช่วยกันทำ ช่วยกันสร้างโดนที่ไม่พึ่งพาครอบครัวของเราเลยนะ เพราะฉะนั้นยังจะกลัวอีกป่าว จริงๆก็คงยังกลัวแหละ แต่โดนเราบังคับให้คบต่อ แหะๆ

ขอข้ามมาตอนแต่งงาน สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจมากคือ งานแต่งงานของเรา ไม่ไดัยิ่งใหญ่ เน้นจำนวนคน เพราะเราคุยกันแล้วว่า เราไม่ต้องการงานใหญ่ และเงินทุกบาททุกสตางค์ แม้แต่แหวนแต่งงาน ก็เป็นเงินที่คุณสามีหามาเองทั้งหมด ตอนเราแต่งงาน แหวนแต่งงานเราไม่ได้ใหญ่อะไรเลย ความจริิงก็อยากได้นะ คุณสามีบอกว่า ตอนนี้ซื้อได้แค่นี้ก่อนนะ ไว้หาเงินได้เยอะกว่านี้ จะซื้อวงใหญ่ให้กว่านี้ ตอนนั้นดีใจมาก ไม่ใช่เพราะจะได้วงใหญ่นะ แต่คิดว่า ขอบคุณนะ สำหรับความตั้งใจที่จะทำ ไว้วันหนึ่งที่เราหาเงินกันได้มากกว่านี้ เราคงอยากเอาไปใช้ในเรื่องที่เราอยากทำมากกว่า โดยเฉพาะเรื่อง “เที่ยว” จะมาร่ายยาวกันต่อ ถึงการเสพติดการเที่ยวของข้าพเจ้า 🙂

นั่นแหละ ทำไมเราถึงตัดสินใจที่จะเดินไปกับคุณสามีเราไปตลอด 😉

0

กว่าจะได้เริ่ม :)

74422_10150309308005052_181687_n

กว่าจะเริ่มได้ของการเริ่มต้นเขียน blog ไม่กล้าที่จะเขียนเพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้ภาษาเขียนไม่สวย เลยได้แต่เก็บความคิดที่จะเขียนไว้นานมาก เคยลองเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่า เอ เราอยากแชร์ให้ใครอ่านกันแน่ ไม่ใช่ต่างชาติแน่นอน

จริงๆจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากจะขีดเขียนเรื่องราวของการเป็นแม่ ของการตั้งท้อง เกิดจากการที่หลายๆครั้งจะมีเพื่อนๆมาถามถึงการดูแลลูก การพาลูกไปเที่ยว การเตรียมตัว ต้องระวังอะไร ต้องทำยังไงบ้าง แล้วเวลาที่ได้ตอบกลับไปมันมีความสุข มันรู้สึกดี กับการที่ได้รู้ว่า สิ่งที่เราเจอมา ทำมา มันพอจะมีประโยชน์กับแม่ๆคนอื่นบ้าง

บทเริ่มต้นของวันนี้ เลยไม่อยากย้อนกลับไปเยอะ แต่อยากจะแชร์ที่มาว่าทำไม เราถึงอยากเขียนเรื่องราว ประสบการณ์ของการเป็นแม่ เพราะตั้งแต่เราได้เป็นแม่ เป็นแม่ของเด็กชายไท เราเชื่อว่าหลายๆคนรู้สึกแบบเราว่า ชีวิตผู้หญิงมักจะเปลี่ยนไปหลังจากได้เป็นแม่คน มากกว่าหลังแต่งงานหลายเท่า หรือจะเรียกได้ว่า มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย มนุษย์ทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์ในบทบาทของการเป็นลูกก่อนทุกคน เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ จนได้แต่งงาน จะมีลูกหรือไม่มี ก็มีวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

ชีวิตเรา คนภายนอกที่มองเข้ามา มักจะคิดว่า เรามีชีวิตที่ดีพร้อม มีความสุขดี ครอบครัว พ่อแม่พี่น้องก็ดี หน้าที่การงานก็ดี แต่เราพูดเสมอว่า ทุกอย่างที่เห็น อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอ ยิ่งพวกเราอยู่ยุคสมัย social ที่คนส่วนมากรวมทั้งเราใช้ชีวิตส่วนมากอยู่บนโลกของ social และผู้คนโดยมากก็มักที่จะเผยแพร่ด้านดีออกมามากกว่าด้านไม่ดี หลายๆครั้งที่ได้มีโอกาสได้นั่งคุยกับเพื่อนบางคน ที่อาจจะเพิ่งมีโอกาสได้คุยกันยาวๆนานๆ ทุกคนก็จะ โห หา บ้าน่า ไม่จริงม้างงง เวลาที่เราว่าจริงๆชีวิตเราเป็นยังไง ทุกคนมักจะพูดประโยคเดียวกันว่า ไม่แย่ขนาดนั้นมั่ง เห็นในเฟซบุคยังอย่างนู่นอย่างนี้ เราก็จะบอกว่า แหะๆ เราชอบสร้างภาพ เราชอบสร้างภาพสวยงาม เพราะเราอยากให้ทุกๆวันเป็นวันที่ดี วันที่สวยงาม

อะ ขอเริ่มสักทีของเรื่องราวของการเป็นแม่ แบบลงลึกในโพสต์ถัดไป 🙂